เอาล่ะเพื่อนๆ! ใครที่ยังงงๆ กับปรากฏการณ์สุดแปลกใน Death Stranding ที่ทำให้โลกมันปั่นป่วนชวนงงจนต้องเกาหัวเนี่ย! วันนี้ปิงจัดให้! 😎 เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของ “ปรากฏการณ์ Death Stranding” กันแบบย่อยง่าย พร้อมเฉลยว่ามันคืออะไร? เกิดอะไรขึ้นบ้าง? และต้นกำเนิดของมันมาจากไหน? บอกเลยว่านี่คือบทสรุปที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกของ Hideo Kojima มากขึ้นแน่นอน! (ย้ำอีกครั้ง! นี่คือเรื่องราวของ “ปรากฏการณ์” นะ ไม่ใช่เนื้อเรื่องทั้งหมดของเกม!)
ปรากฏการณ์ Death Stranding มันคืออะไร!? 😱
Death Stranding คือชุดของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ถล่มโลกในเกม ซึ่งเริ่มต้นจากการระเบิดพร้อมกันทั่วโลก! ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ โลกของคนตายกับโลกของคนเป็น ได้เชื่อมโยงกัน! และมันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมมนุษย์และระบบนิเวศเลยนะ!
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “Beach” (บีช) หรือโลกที่อยู่ระหว่างชีวิตหลังความตายกับโลกทางกายภาพของคนเป็น เนี่ย มันดันมาพันกันยุ่งเหยิงกับโลกของคนเป็นเรานี่แหละ! ทันทีหลังจากเกิด Death Stranding วิญญาณ (Ka) ของมนุษย์ทุกคนที่ตายไป จะยังคงผูกติดอยู่กับร่างกาย (Ha)!
การเชื่อมโยงนี้ส่งผลให้วิญญาณพยายามที่จะกลับมารวมกับร่างกาย ทำให้ร่างกายเริ่มเน่าเปื่อย เพราะถูกสสารจากอีกฝั่งหนึ่งแทรกซึมเข้ามา! ถ้าศพไม่ถูกนำไปเผาทำลายให้หมดนะ การรวมตัวของวิญญาณและร่างกายก็จะกลายเป็น Beached Thing (BT) !
BTs คือสิ่งมีชีวิตจากอีกฝั่งหนึ่งที่กลายเป็น “สิ่งมีชีวิตที่ติดค้าง” อยู่ในโลกของเรานี่แหละ! BTs เนี่ย มีแกนของ “ปฏิสสาร” (Antimatter) ซึ่งทำปฏิกิริยารุนแรงกับสสารของคนเป็น! ถ้าพวกมันกินคนเป็นเข้าไปนะ จะเกิด “Voidout” (วอยด์เอาต์) ขึ้นมาเลย! ร่างกายของเหยื่อกับแกนปฏิสสารของ BT จะระเบิดอย่างรุนแรง! มีพลังทำลายล้างถึงขั้นถล่มเมืองทั้งเมืองได้เลยนะ! 💥
นอกจากนี้ Death Stranding ยังนำพา Chiralium (คิราเลียม) จำนวนมหาศาลเข้ามาในโลกของคนเป็นด้วย! Chiralium นี่แหละคือสสารที่เคยมีอยู่แค่ในอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น! แต่มันมีคุณสมบัติแปลกๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเวลาได้ เมื่อมันทำปฏิกิริยากับสสารปกติและสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์!
ผลกระทบสุดสยองของ Death Stranding! 😱
Death Stranding มันส่งผลกระทบต่อโลกและมนุษย์แบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลยนะเพื่อนๆ!
โลกพัง! 🌍: ผลกระทบทางกายภาพและระบบนิเวศ
- ระเบิดปริศนาทั่วโลก:
การปรากฏตัวครั้งแรกของ Death Stranding ที่ผู้คนรับรู้คือการระเบิดขนาดใหญ่พร้อมกันทั่วโลก! ตอนแรกคิดว่าเป็นการก่อการร้ายนิวเคลียร์ หรือไม่ก็ดาวตก แต่การวิเคราะห์ภายหลังเผยว่าการระเบิดพวกนี้มีลักษณะคล้ายปฏิกิริยาการทำลายล้างของสสาร-ปฏิสสาร! ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าการระเบิดเหล่านั้นเกิดจากการปรากฏตัวของ BTs ครั้งแรกๆ และตามมาด้วย Voidout นั่นแหละ! โลกถูกทำลายล้างเป็นวงกว้างเลย! - Timefall ฝนเร่งแก่:
การมี Chiralium จำนวนมากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อม! ความหนาแน่นของ Chiral Matter ในชั้นบรรยากาศที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดเมฆครึ้มอยู่ตลอดเวลา และทำให้เกิด “Timefall“ หรือฝนที่ปะปน Chiralium ซึ่งทำให้ทุกสิ่งที่โดนมันจะ แก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว! ☔️ - หายนะต่อสิ่งมีชีวิตและภูมิประเทศ:
Timefall ทำลายระบบนิเวศอย่างหนัก! ภูมิประเทศของโลกก็เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้! พื้นดินถูกกัดกร่อน พืชพรรณเติบโตอย่างบ้าคลั่ง สัตว์ต่างๆ ตายเป็นจำนวนมาก และสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ก็ผุพังไปอย่างรวดเร็ว!
มนุษย์หลบในรู! 🧑🤝🧑: ผลกระทบต่อสังคมมนุษย์
- อารยธรรมถดถอย:
อารยธรรมมนุษย์ถอยหลังไปเยอะมาก! การระเบิดครั้งแรก, Voidouts ที่ตามมา และผลกระทบจาก Timefall ทำให้เมืองส่วนใหญ่ถูกทิ้งร้างหรือถูกทำลาย! ผู้คนส่วนใหญ่เสียชีวิต! 😭 - Chiralium กับผลกระทบต่อมนุษย์:
Chiralium ยังส่งผลเสียต่อมนุษย์ด้วยนะ การสัมผัส Chiralium ทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชากรมนุษย์ลดลงอย่างมาก นอกจากผลกระทบโดยตรงจากการแพร่กระจายของมัน! - ชีวิตที่โดดเดี่ยว:
เนื่องจากอันตรายจากศพที่ไม่ถูกจัดการ และการที่ BT อาจปรากฏตัว ผู้คนจึงต้องใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยวมากๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับมนุษย์ด้วยกัน! บริการขนส่ง (Portering services) จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงและส่งเสบียงให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ใน Knot Cities และที่พักพิงโดดเดี่ยวอื่นๆ! - การสื่อสารล่มสลาย:
การเดินทางทางอากาศและการสื่อสารผ่านดาวเทียมกลายเป็นไปไม่ได้เลย เพราะมีกลุ่มเมฆ Chiral! ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้ว่ามีสิ่งมีชีวิต หรืออารยธรรมใดๆ เหลืออยู่ภายนอกทวีปอเมริกาเหนืออีกหรือเปล่า! ประชากรที่เหลือน้อยลงของอดีตสหรัฐอเมริกาจึงแยกตัวอยู่ตาม Knot Cities และที่ตั้งถิ่นฐานเล็กๆ น้อยๆ! - Chiral Network ความหวังเดียว! ✨:
ผลลัพธ์เชิงบวกเดียวของ Death Stranding คือการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารขั้นสูงขึ้นมาจากการศึกษา Chiral Matter! ซึ่งสามารถผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรม แม้ในสังคมที่ถดถอยนี้ เพื่อสร้าง “Chiral Network” ที่เชื่อมโยงทั่วทวีปอเมริกา! ทำให้การสื่อสารระยะไกลแบบทันทีทันใดที่เคยหายไป กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง!
ต้นกำเนิดสุดพีคของ Death Stranding! 🤯
ในที่สุดเราก็ค้นพบความจริงผ่านการทำงานของ Heartman และนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ว่าเคยเกิดปรากฏการณ์ Death Stranding มาแล้วอย่างน้อยห้าครั้งก่อนหน้านี้! ซึ่งแต่ละครั้งก็สอดคล้องกับเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สุดห้าครั้งในอดีตของโลก!
เรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Death Stranding ครั้งก่อนๆ น้อยมาก ยกเว้นว่ามันเกิดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของ Extinction Entity และการแพร่กระจายของ Chiralium เข้าสู่โลกของสิ่งมีชีวิต!
- จุดเริ่มต้น Death Stranding ครั้งปัจจุบัน:
ตามคำสารภาพของ Die-Hardman ปรากฏการณ์ Death Stranding ครั้งปัจจุบันเริ่มต้นขึ้นในขณะที่ศัลยแพทย์กำลังทำการผ่าตัดคลอด (C-Section) ให้กับหญิงมีครรภ์ที่สมองตายบนเกาะแมนฮัตตัน ซึ่งในขณะนั้นมี BT ปรากฏตัวขึ้นและทำให้เกิด Voidout ขึ้นในที่สุด! - Bridget Strand และการเร่ง Death Stranding:
เพื่อพยายามรวมผู้คนในอเมริกาให้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยการทำให้ปัญหา BT เป็นที่รับรู้ Bridget Strand ได้ทำการทดลอง BBs ต่อไป ซึ่งในที่สุดก็ทำให้ ลูกชาย ของ Cliff Unger ที่เสียชีวิตไปแล้ว กลับมามีชีวิตอีกครั้ง! นี่แหละที่เป็นการเชื่อมโยงโลกของคนตายและคนเป็นอย่างสมบูรณ์! และทำให้ Amelie ปรากฏตัวในฐานะ Extinction Entity ลำดับที่หก ด้วยอัตราที่เร่งขึ้น! - ความปรารถนาของ Amelie:
ตามที่ Higgs Monaghan และ Amelie บอก มนุษยชาติมีเวลาเหลือเพียงไม่กี่แสนปี ก่อนที่จะถึงการสูญพันธุ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้! นี่แหละคือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ Amelie ตัดสินใจเร่ง Death Stranding ให้เร็วขึ้น! เพราะเธอ “เหนื่อยที่จะต้องรออย่างโดดเดี่ยว” เพื่อทำหน้าที่ของเธอ! - การสูญพันธุ์ครั้งสุดท้าย:
Death Stranding ครั้งปัจจุบันนี้ถูกบอกเป็นนัยอย่างชัดเจนว่าจะเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย! ซึ่งจะส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกถูกทำลายอย่างสมบูรณ์และถาวร! - การรับรู้ความตายของมนุษย์:
Death Strandings ทั้งหมดก็ยังถูกบอกเป็นนัยว่าถูกกำหนดโดยการรับรู้ความตายของสิ่งมีชีวิต! มนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตแรกที่สามารถเข้าใจแนวคิดเรื่องความตายในเชิงนามธรรมได้อย่างสมบูรณ์ อาจเป็นเหตุผลสำหรับผลกระทบที่รุนแรงอย่างยิ่งของ Death Stranding ครั้งนี้!
Last Stranding: แผนสุดท้ายของ Amelie! 💥
Amelie วางแผนที่จะปลดปล่อยสิ่งที่เธอเรียกว่า “Last Stranding” ผ่าน Chiral Network! ซึ่งเป็น Death Stranding ที่เหนือกว่าทั้งห้าครั้งก่อนหน้านี้! โดย Beaches ของทุกคนในอเมริกาจะถูกเชื่อมต่อและรวมเข้ากับ Beach ของเธอในฐานะ Extinction Entity!
ก่อนที่จะเกิด Seam (รอยแยก) จาก Beaches ทั้งหมด ซึ่งจะถูกปฏิสสารไหลทะลักเข้ามา! ทำให้โลกเต็มไปด้วย BTs และจบสิ้นโลกในทันที! Amelie อ้างว่า Last Stranding นี้จะคล้ายกับ Big Bang และ Death Strandings อาจเป็นวิธีที่จักรวาลใช้เพื่อจบโลก และกลับคืนสู่ความว่างเปล่า! โดยถือว่ามนุษย์เป็นความผิดพลาดที่รอดชีวิตจากการระเบิดของสสาร-ปฏิสสารของ Big Bang!
อย่างไรก็ตาม เธอก็เชื่อว่าการสูญพันธุ์ที่เกิดจาก Death Strandings เป็นโอกาสที่สิ่งมีชีวิตไม่เพียงแต่จะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดและดำรงอยู่ แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้รับการจุดประกายและวิวัฒนาการจากเถ้าถ่านแห่งความตาย เพื่อที่จะฉลาดขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นในการท้าทายจักรวาล!
แม้ว่า Last Stranding จะถูกชะลอออกไปแล้ว Amelie ก็ยังกล่าวว่า ไม่ว่าการสูญพันธุ์จะเกิดขึ้นตอนนี้หรือในอนาคต Beach ของเธอก็ถึงวาระและจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า!
ศัพท์แสงที่ต้องรู้! 💡 เกี่ยวกับปรากฏการณ์ Death Stranding
ชื่อของปรากฏการณ์นี้สื่อถึงอะไรบ้าง?
- การติดค้างของคนตายในโลกของคนเป็น: (Stranding of the dead in the world of the living)
- การเชื่อมโยงระหว่างสองโลก: (Connection between the two worlds) ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตต่างๆ เช่น Beached Things (BTs), Repatriation (การกลับคืนชีพ), และ DOOMS (พลังพิเศษ)!
- Higgs อ้างว่าเขาเข้าใจความจริงของ Death Stranding ทั้งหมด!
- ชื่อ “Death Stranding” ยังอ้างอิงถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลอย่างวาฬและโลมา “เกยตื้น” (cetacean stranding) ที่ไม่สามารถกลับลงทะเลได้เอง! แต่ในเกม Death Stranding ปรากฏการณ์นี้ครอบคลุมมากกว่าในความเป็นจริงนะ! สัตว์ทะเลอื่นๆ รวมถึงสัตว์จำพวกกุ้งและปลา ก็ถูกพบว่าเกยตื้นอยู่บนชายหาดพร้อมกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลด้วย!
เป็นไงบ้างเพื่อนๆ! กับบทสรุปปรากฏการณ์ Death Stranding ที่ทั้งน่ากลัว น่าขนลุก แต่ก็โคตรน่าทึ่ง! หวังว่าตอนนี้ทุกคนคงจะเข้าใจภาพรวมของโลกที่โคจิม่าสร้างขึ้นมาได้ชัดเจนขึ้นแล้วนะ! ใครมีคำถาม หรืออยากรู้ลึกกว่านี้อีก คอมเมนต์มาคุยกันได้เลย!
สำหรับวันนี้ ปิงขอตัวลาไปก่อน! บายยย! 👋