โย่ว! พี่น้องชาว Dota 2 และคอเกม MOBA ทุกท่าน! ปิงเองครับผม! 😎 อดีตนักพากย์ Dota 2 ที่วันนี้ขอผันตัวมาเป็นนักเล่าเรื่อง (จำเป็น!) พาเพื่อนๆ ดำดิ่งสู่จุดกำเนิดของเกมสุดรักสุดหวงของเรากัน! เคยสงสัยไหมว่าไอ้เกมตีป้อมสุดมันส์ที่เราโดดใส่กัน ตะโกนลั่นบ้านกันอยู่ทุกวันนี้เนี่ย มันมีที่มาที่ไปสุดพีก สุดซับซ้อน และสุดยอดขนาดไหน? จากแค่ ‘แมพ Mod’ ที่คนทำเล่นๆ ในเกมอื่น กลายมาเป็นมหาอำนาจแห่งวงการอีสปอร์ต ชิงเงินรางวัลกันเป็นพันล้านได้ยังไง!? เตรียมป๊อปคอร์นให้พร้อม แล้ววาร์ปไปดูประวัติศาสตร์สุดอลังการนี้ด้วยกันเลย!
MOBA คือไรหว่า? & จุดเริ่มต้น ณ ดาว Starcraft 🌌
ก่อนอื่นเลย มาทำความรู้จักคำว่า MOBA กันแป๊บ! มันย่อมาจาก Multiplayer Online Battle Arena หรือบางทีก็เรียกว่า ARS (Action Real-Time Strategy) สรุปง่ายๆ ก็คือเกมแนววางแผนแบบเรียลไทม์ที่เน้นแอคชั่นนั่นแหละ โดยที่เราจะคุม ‘ฮีโร่’ ตัวเก่งของเราตัวเดียว ไปบวกกับเพื่อนร่วมทีม สู้กับฝั่งตรงข้ามเพื่อทำลายฐานหลักของพวกมันให้ได้!
แล้วไอ้แนวนี้มันเริ่มมาจากไหน? ต้องย้อนไปไกลถึงปี 1998 กับเกม RTS ในตำนานอย่าง Starcraft ของค่าย Blizzardนู่นเลย! สมัยนั้นมีคนทำแผนที่ Custom Map เล่นๆ ชื่อว่า Aeon of Strife ซึ่งถือเป็นต้นแบบแรกสุดของ MOBA เลยก็ว่าได้ คือให้ผู้เล่นคุมฮีโร่ตัวเดียว สู้กับกองทัพ AI ที่ดาหน้าเข้ามาเรื่อยๆ นั่นเอง
สู่ยุค Warcraft 3: กำเนิด ‘DotA’ ต้นฉบับ! 🌳
จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงในปี 2002 เมื่อ Blizzard ปล่อยเกม RTS เทพอีกเกมอย่าง Warcraft 3: Reign of Chaos ออกมา ซึ่งเกมนี้มันมีระบบ World Editor ที่ให้ผู้เล่นสร้างแผนที่ Custom Map ได้อย่างอิสระและเทพกว่า Starcraft เยอะมาก!
และแล้ว… ก็มีนักสร้างแมพคนหนึ่งนามว่า “Eul” ได้รับแรงบันดาลใจจาก Aeon of Strife มาสร้างแผนที่ใหม่ใน Warcraft 3 โดยใช้ชื่อว่า Defense of the Ancients หรือที่เราเรียกติดปากกันสั้นๆ ว่า “DotA” นั่นเอง! แมพนี้แหละคือต้นกำเนิดที่แท้จริงของ Dota ที่เรารู้จัก มันมีระบบเลน มีการตีป้อม มีการฟาร์มครีป และมีองค์ประกอบ RPG ที่เข้มข้นกว่าเดิมเยอะ!
DotA Allstars: เมื่อคอมมูนิตี้รวมพลังสร้างตำนาน! ✨
หลังจาก Eul ปล่อย DotA ออกมาแล้ว อยู่ๆ แกก็หายตัวไปซะงั้น! 😱 (เหมือนเข้าป่าไปเลย) ทำให้มีคนอื่นๆ หยิบเอาคอนเซ็ปต์ของ DotA ไปพัฒนาต่อยอด สร้างเป็นเวอร์ชั่นต่างๆ มากมาย เพิ่มฮีโร่ เพิ่มไอเทมกันเต็มไปหมด จนมันเริ่มกระจัดกระจาย
จนกระทั่งมี Modder สองคนชื่อ Mayan กับ Ragnor ได้รวบรวมเอาเวอร์ชั่นเจ๋งๆ ที่คนนิยมเล่น มารวมกันเป็นเวอร์ชั่นเดียว แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า DotA Allstars ซึ่งเป็นการรวมดาวฮีโร่จากเวอร์ชั่นต่างๆ มาไว้ในที่เดียวนั่นเอง!
ต่อมา การพัฒนาหลักก็ตกไปอยู่ในมือของ Modder อีกคนที่ชื่อ “Guinsoo” (กินซู) (ชื่อคุ้นๆ มั้ยล่ะ? 😉) ซึ่ง Guinsoo นี่แหละที่ใส่ระบบเจ๋งๆ เข้าไปมากมาย ทั้งครีปป่าสุดโหด (Roshan ก็มาจากยุคนี้แหละ!) ระบบไอเทมที่หลากหลาย และระบบผสมของโดยใช้ Recipe (ใบผสมของ) ทำให้เกมมันมีมิติและความลึกมากขึ้นไปอีก!
และในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง Modder อีกคนชื่อ “Pendragon” ก็ได้สร้างเว็บบอร์ด (Forum) ขึ้นมา เพื่อให้ชาว DotA Allstars ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น จัดทีม นัดเล่น และเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาเกม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคอมมูนิตี้ DotA ที่แข็งแกร่งมากๆ
ยุค ‘กบน้ำแข็ง’ IceFrog: ปรับสมดุลสู่ความเทพ! 🐸❄️
ทำไปทำมา Guinsoo ก็ประกาศวางมือจากการพัฒนา DotA Allstars (คาดว่าแกคงเหนื่อย หรือมีแผนอื่นในใจ 😉) ทำให้หน้าที่การดูแลแมพต่อตกทอดมาสู่นักพัฒนาลึกลับในตำนาน ที่ใช้นามแฝงว่า “IceFrog” (กบน้ำแข็ง) นั่นเอง!
ซึ่งการเข้ามาของ IceFrog ถือเป็นยุคทองของการปรับสมดุลเกมเลยก็ว่าได้! แกเน้นมากๆ เรื่องการปรับแก้ฮีโร่และไอเทมต่างๆ ให้มันสมดุล ไม่ให้มีตัวไหนโกงเกินไป ทำให้ DotA Allstars กลายเป็นเกมที่มีการแข่งขันสูง และต้องใช้ฝีมือกับทีมเวิร์คจริงๆ ซึ่งนี่แหละคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ DotA ยังคงฮิตติดลมบนมาได้ยาวนาน แม้จะเป็นแค่ Mod ก็ตาม
จาก Mod สู่เกมเต็ม: จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ และคู่แข่งตลอดกาล! 💥
ถึง DotA Allstars จะโคตรฮิตขนาดไหน แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่เป็นแค่ Mod ของ Warcraft 3 ทำให้การพัฒนาต่อยอด การแก้บั๊ก หรือการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ มันทำได้ยาก
จุดนี้เองที่ทำให้มีคนเริ่มคิดถึงการสร้างเกมแนว MOBA แบบเต็มตัวออกมาขาย ในปี 2008 ก็มีเกมชื่อ Demigod ออกมาเป็นเกมแรก แต่ก็ยังไม่ปังเท่าไหร่
จนกระทั่งปี 2009… Guinsoo กับ Pendragon สองอดีตหัวเรือใหญ่ของ DotA Allstars ได้ไปก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Riot Games แล้วเปิดตัวเกม MOBA ของตัวเองในชื่อ League of Legends (LoL) !! ซึ่ง LoL ก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงและตลอดกาลของ DotA ไปโดยปริยาย (ดราม่าบังเกิด! 🤣)
แล้ว IceFrog ล่ะ? ทางค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Valve Corporation (เจ้าของ Steam และ Counter-Strike) ก็เล็งเห็นศักยภาพของ DotA และความเทพของ IceFrog เลยทำการ… จ้าง IceFrog มาซะเลย! เพื่อให้มาสร้างภาคต่ออย่างเป็นทางการของ DotA Allstars ในชื่อใหม่ว่า “Dota 2” !!
Dota 2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2013 และก็บูมเป็นพลุแตกทันที กลายเป็นเกมยอดฮิตติดชาร์ต Steam สร้างปรากฏการณ์กินทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกไปมหาศาล!
Dota 2 & The International: MOBA เขย่าโลกอีสปอร์ต! 🏆🌏
Valve ไม่ได้หยุดแค่สร้างเกม แต่ยังผลักดัน Dota 2 เข้าสู่วงการ อีสปอร์ต (eSports) อย่างเต็มตัว ด้วยการจัดทัวร์นาเมนต์ระดับโลกประจำปีที่ชื่อว่า “The International” (TI) ซึ่งไฮไลท์เด็ดคือ ‘เงินรางวัลรวม’ ที่มาจากการสมทบทุนของผู้เล่นผ่าน Battle Pass ทำให้ยอดเงินรางวัลมันพุ่งทะยานทำลายสถิติโลกปีแล้วปีเล่า!
เงินรางวัลนี่มหาศาลชนิดที่ว่า เปลี่ยนชีวิตโปรเพลเยอร์และทีมที่ได้แชมป์ไปเลยนะเพื่อน! ทำให้ Dota 2 กลายเป็นเกมที่สร้างรายได้ให้ผู้เล่นและทีมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์อีสปอร์ต (ณ ช่วงเวลาหนึ่ง)
โห! เป็นไงเพื่อนๆ ประวัติศาสตร์ Dota 2 นี่มันยาวนาน ซับซ้อน แต่ก็สุดยอดจริงๆ เนอะ! จากแค่แมพ Mod ที่คนทำเล่นๆ กันในเกม Warcraft 3 พัฒนาต่อยอดกันมาโดยคอมมูนิตี้ จนกลายมาเป็นเกมระดับโลก มีการแข่งขันชิงเงินรางวัลกันเป็นพันล้านบาทได้! ต้องขอบคุณเหล่าผู้พัฒนาและ Modder ตั้งแต่ยุคบุกเบิกอย่าง Eul, Guinsoo, Pendragon และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง IceFrog ที่ทุ่มเทสร้างสรรค์และดูแลเกมนี้มาจนถึงทุกวันนี้เลยจริงๆ พวกเขาได้เปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของวงการวิดีโอเกมและอีสปอร์ตไปตลอดกาลเลยล่ะ!
สำหรับวันนี้ อาจารย์ปิง (ชั่วคราว) ก็ขอจบการเลคเชอร์ เอ๊ย! เล่าเรื่องเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าเด้อ! ใครมีเรื่องราวความทรงจำกับ DotA ยุคแรกๆ ก็คอมเมนต์มาแชร์กันได้นะ! บายยย! 😉
