Lyse (อดีต Yda) ถอดหน้ากาก เผยตัวตนที่แท้จริงในฐานะนักสู้แห่ง Ala Mhigo เตรียมพร้อมเข้าสู่ภาค Stormblood ใน FFXIV
FFXIV LORE

FFXIV สรุปเนื้อเรื่อง 3.4-3.5: เงามืดแห่งอดีต สู่อรุณรุ่งแห่งการปฏิวัติ

กลับมาแล้วเพื่อนๆ ชาวแสง! ✨ หลังจากปิดฉากสงครามมังกรพันปีใน Patch 3.3 ไปแบบสุดซึ้ง (แต่ก็แอบทิ้งปม Estinien ที่โดน Nidhogg สิง กับพวกนักรบแห่งความมืดที่โผล่มาไว้นะ!) เนื้อเรื่องของ FFXIV ในช่วง Patch ท้ายๆ ของภาค Heavensward อย่าง Patch 3.4 ‘Soul Surrender’ และ Patch 3.5 ‘The Far Edge of Fate’ (รวมถึง 3.55/3.56 ด้วย) มันยังไม่จบง่ายๆ! มันคือ ‘บทส่งท้าย’ ของยุค Heavensward ที่แท้จริง! ที่เต็มไปด้วย ‘เงามืดจากอดีต’ ที่ยังคงตามหลอกหลอนเรา และเป็นการปูทางไปสู่ ‘การปฏิวัติครั้งใหม่’ ในภาคเสริมต่อไปอย่าง Stormblood! เกิดอะไรขึ้นบ้าง? ใครต้องจากไปอีก!? 😭 ความจริงสุดช็อกคืออะไร!? ตามปิงมาสรุปกันเลย!

Scions รวมพล (แต่ใครจะเป็นหัวหน้า?) & ภัยร้ายใหม่ ‘The Griffin’ 🦅

เรื่องราวเริ่มต้นที่เราและเหล่า Scions ที่เหลือรอด (Alphinaud, Y’shtola, Krile, Thancred) กลับมารวมตัวกันที่ฐานเก่า Rising Stones (หลังจาก Minfilia ได้กลายเป็น Voice of the Mother และดูเหมือนจะจากเราไปแล้ว 😢) ก็มีการประชุมหารือกันว่า ใครควรจะมารับหน้าที่ ‘ประสานงาน’ แทน Minfilia ดี?

หลายคนก็เสนอชื่อ Alphinaud แต่เจ้าตัวปฏิเสธหัวชนฝา! บอกว่ายังเข็ดกับความล้มเหลวของหน่วย Crystal Braves ที่ตัวเองเคยก่อตั้งอยู่เลย 😅 จะเสนอชื่อ นักรบแห่งแสง (WoL) อย่างเราเหรอ? ก็ดูจะ ‘ภารกิจเยอะ’ เกินไป! ไหนจะต้องไปลงดัน ฟาร์มเรด ขุดแร่ ตกปลา หาของอัป iLvl อีก! (อันนี้ปิงเติมเอง! 🤣) สุดท้าย Papalymo เลยบอกว่า ช่างมันเถอะ! พวกเรา Scions สนิทกันเหมือนครอบครัวอยู่แล้ว ไม่ต้องมีผู้นำทางการก็ได้!

แต่ยังไม่ทันได้ข้อสรุปดี ก็มีเรื่องด่วนเข้ามา! สาวน้อย Miqo’te ผู้ลี้ภัยชาว Ala Mhigo (อาณาจักรที่ถูก Garlean ยึดครองไปนานแล้ว) วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งข่าวว่า ผู้นำกลุ่มต่อต้านใต้ดินที่สวมหน้ากากเหยี่ยว นามว่า “The Griffin” กำลังวางแผนจะทำเรื่องใหญ่! นั่นคือการ ‘บุกโจมตี’ Baelsar’s Wall กำแพงยักษ์ที่กั้นพรมแดนระหว่างเขต The Black Shroud (ของ Gridania) กับ Gyr Abania (เขตของ Ala Mhigo ที่ถูก Garlean ยึดครอง)! โดยมีเป้าหมายเพื่อ ‘ยั่วยุ’ ให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่าง Eorzean Alliance กับ Garlean Empire ขึ้นมา! โอ้โห! เอาเรื่องแล้วไง!

พวกเรา Scions ทราบเรื่อง เลยต้องรีบแยกย้ายกันไปแจ้งข่าวและขอความร่วมมือจากผู้นำแต่ละเมืองใน Eorzean Alliance ทันที!

การเมือง Eorzea และกับดักที่ Baelsar’s Wall 🎭

เรา (นักรบแห่งแสง) เดินทางไปแจ้งข่าวให้ Aymeric ที่ Ishgard ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบสาธารณรัฐพอดี Aymeric เห็นด้วยว่าเรื่องนี้เป็นภัยคุกคามใหญ่ และได้รับการยอมรับจากสภาใหม่ให้เป็นตัวแทนของ Ishgard ในการประชุมร่วมกับ Eorzean Alliance (แต่ก่อนไปประชุม แกก็แอบฝากให้เราไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ Emmanellain กับคนรับใช้คู่ใจ Honoroit ที่ตอนนี้ถูกส่งไปประจำการ (หรือถูกดัดนิสัย?) อยู่ที่ Camp Dragonhead แทน Haurchefant ผู้ล่วงลับด้วยนะ)

เหล่าผู้นำ Eorzean Alliance (รวมถึง Aymeric จาก Ishgard และตัวแทนจาก Doma ที่มาลี้ภัยอยู่) ได้มารวมตัวประชุมกันที่ Gridania เพื่อหารือเรื่อง The Griffin ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าต้องส่งกำลังไปเสริมแนวป้องกันที่ Baelsar’s Wall เพื่อป้องกันไม่ให้สงครามลุกลามเข้ามาใน Black Shroud

แต่ Alphinaud กลับรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี… ว่านี่อาจจะเป็น ‘กับดัก’ ของ The Griffin! เขาจึงเสนอแผนให้ Yda, Papalymo, Thancred, และ Yugiri ลอบเดินทางเข้าสู่ Gyr Abania ผ่าน ‘อุโมงค์ลับ’ ที่พวกเขารู้จัก เพื่อไปสืบหาตัวตนและเจรจากับ The Griffin โดยตรง! ส่วนตัว Alphinaud กับเรา (นักรบแห่งแสง) จะคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่ชายแดน ร่วมกับ Hilda และกองกำลัง Grand Company ที่ไปเสริมทัพ

และแล้ว… สิ่งที่ Alphinaud กังวลก็เกิดขึ้นจริง! 💥 เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นที่ Baelsar’s Wall! ทหารรายงานว่า กองกำลัง Eorzean Alliance ที่ไปเสริมทัพ ดันเป็นฝ่าย ‘เปิดฉากโจมตีก่อน’! Alphinaud รู้ทันที! นี่มันคือกับดัก! The Griffin หลอกให้ Eorzea เอากำลังไปรวมกันที่ชายแดน แล้วก็จัดฉาก สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่า Eorzea เป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน! เพื่อบีบให้ Garlean Empire ต้องส่งกองทัพใหญ่มาตอบโต้! แผนโคตรแสบ!

Alphinaud รีบมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ลับทันที เพราะเป็นห่วงพวก Yda ส่วนเรา นักรบแห่งแสง ก็ต้องรีบบุกเข้าไปยัง Baelsar’s Wall เพื่อหยุดยั้งความบ้าคลั่งนี้!

เผยโฉม The Griffin! แผนคลั่ง และการเสียสละสุดท้าย… 😭

เมื่อเราบุกไปถึงใจกลางความวุ่นวายที่ Baelsar’s Wall เราก็ได้เผชิญหน้ากับ The Griffin ตัวเป็นๆ! และเมื่อเขาถอดหน้ากากออก… คนที่อยู่ภายใต้หน้ากากเหยี่ยวนั้นก็คือ… ILBERD!!! 😱😱😱 ไอ้เพื่อนทรยศ! อดีตผู้บังคับหน่วย Crystal Braves ที่หักหลังเราและ Scions อย่างเจ็บแสบในตอนจบ ARR นั่นเอง!

Ilberd เปิดเผย ‘แผนการสุดคลั่ง’ ทั้งหมดของเขา! ที่เขาทรยศเรา เข้าร่วมกับ Lolorito ก่อเรื่องวุ่นวายใน Ul’dah ทั้งหมดนั่น ก็เพื่อเป้าหมายเดียว! คือการ ‘ปลดแอก Ala Mhigo’ บ้านเกิดของเขาจากจักรวรรดิ Garlean! แต่ด้วยวิธีที่ ‘ผิด’ และ ‘สุดโต่ง’ อย่างไม่น่าเชื่อ!

แผนของเขาคือ: ใช้ทหาร Crystal Braves ที่ยังภักดีต่อเขา (อย่าง Laurentius และ Yuyuhase) ปลอมตัวเป็นทหาร Garlean แล้วเข้าไป ‘สังหารหมู่’ กลุ่มต่อต้านชาว Ala Mhigo ที่เขารวบรวมมาเอง! เพื่อสร้าง ‘ความโกรธแค้น’ และ ‘พลังงาน Aether แห่งความปรารถนา’ อันมหาศาล! จากนั้น เขาจะใช้ ‘ดวงตาทั้งสองข้างของ Nidhogg’ (ที่แกไปแอบเก็บมาจาก Sea of Clouds ตอนไหนวะเนี่ย!?) เป็นแกนกลาง แล้วใช้ ‘พลังชีวิต’ ของตัวเอง สังเวยเพื่อ ‘อัญเชิญ Primal’ ตนใหม่ขึ้นมา! Primal ที่เกิดจากความแค้น ความปรารถนาในการปลดแอก และพลังของมังกรโบราณ! Primal ที่เขาเชื่อว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า Bahamut และสามารถทำลายล้างจักรวรรดิ Garlean ให้สิ้นซากได้!!!

ว่าแล้ว Ilberd ก็ทำพิธีสังเวยตัวเอง… และอัญเชิญ Primal สีแดงฉาน รูปร่างคล้ายมังกร ขนาดมหึมาออกมาได้สำเร็จ! มันคือ… SHINRYU (ชินริว)!!! 🐉

ในจังหวะที่ Shinryu กำลังจะอาละวาด… Papalymo ที่ตามมาถึงพอดี ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว! เขาตะโกนบอกให้ทุกคน (โดยเฉพาะ Yda และเรา) รีบหนีไป! ส่วนตัวเขาจะใช้ไม้เท้า Tupsimati (ไม้เท้าของปู่ Louisoix) รวบรวมพลัง Aether ทั้งหมด แล้วร่าย ‘คาถาผนึก’ (Sealing Ritual) แบบเดียวกับที่ปู่ Louisoix เคยใช้ที่ Carteneau เพื่อผนึก Shinryu ไว้ก่อนที่มันจะสมบูรณ์!

Yda ไม่ยอมทิ้ง Papalymo! แต่ Thancred ก็เข้ามา ‘บังคับ’ (อาจจะอุ้ม?) พา Yda ขึ้นเรือเหาะของ Hilda หนีไปได้ทันเวลา… Papalymo ร่ายคาถาสำเร็จ! แสงสีขาวสว่างวาบเข้าผนึกร่าง Shinryu ที่ยังไม่สมบูรณ์ไว้ใน ‘Cocoon of Light’ (รังไหมแห่งแสง) ขนาดใหญ่… และแล้ว ร่างของ Papalymo ก็ค่อยๆ สลายกลายเป็นแสง Aether หายไป… 😭😭😭

อาจารย์ Papalymo!!! ไม่นะ!!! ฮืออออ! ซีนนี้คือโคตรเท่ โคตรซึ้ง โคตรเศร้า! เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องทุกคน! น้ำตาไหลเป็นทางเลย! 😭

รับมือ Cocoon ปริศนา & การมาเยือนของซามูไร? 🤔

พวกเราที่รอดชีวิตกลับมายัง Rising Stones ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของ Papalymo… แต่ก็ต้องรีบตั้งสติ เพราะตอนนี้มี ‘รังไหมแห่งแสง’ ที่ผนึก Primal สุดอันตรายลอยคว้างอยู่กลางฟ้า! จะจัดการกับมันยังไง!?

เหล่าผู้นำ Eorzean Alliance ก็เรียกประชุมด่วน แต่ก็ไม่มีใครรู้วิธีจัดการกับ Cocoon นี้ได้เลย… จนกระทั่ง… Nero tol Scaeva ไอ้คู่ปรับตัวแสบของ Cid โผล่มาอีกแล้ว! (“มาได้ไง(อีกแล้ว)วะ!?”) แต่คราวนี้มาพร้อมข้อเสนอ! เขาบอกว่ามี ‘อาวุธโบราณ’ ของพวก Allagan ที่เคยใช้ผนึก Bahamut มาก่อน น่าจะใช้จัดการกับ Shinryu ได้! อาวุธนั้นคือ… OMEGA!!! ซึ่งตอนนี้มันถูกผนึกอยู่ที่ไหนซักแห่งใต้สมรภูมิ Carteneau!

แน่นอนว่าไม่มีใครไว้ใจ Nero! แต่ในสถานการณ์แบบนี้ มันก็อาจจะเป็น ‘ทางเลือกเดียว’ ที่พวกเขามีอยู่ก็ได้…

ขณะเดียวกัน ที่ Rising Stones ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือน! ซามูไรสูงอายุ ร่างใหญ่ ท่าทางสุดเก๋า นามว่า Gosetsu (โกเซ็ตสึ) เขาเดินทางมาจากดินแดน Doma ที่อยู่ไกลโพ้น เพื่อตามหา Yugiri นินจาสาวของเรา! พอเขารู้ว่าศัตรูที่เรากำลังเผชิญอยู่คือจักรวรรดิ Garlean (ซึ่งเป็นศัตรูของ Doma เช่นกัน) เขาก็อาสาที่จะอยู่ช่วยเหลือพวกเราด้วยอีกแรง! (“ได้ซามูไรสุดเก๋ามาช่วย! น่าจะโหด!”)

ศึกไคจูสะท้านฟ้า! Omega ปะทะ Shinryu! 🤖💥🐉

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ Omega พวกเรา นักรบแห่งแสง และพันธมิตร ก็เดินทางไปยัง Carteneau ด้วยยาน Excelsior ของ Cid (ที่อัปเกรดมาแล้ว!) เข้าปะทะกับกองทหาร Garlean ที่เฝ้าพื้นที่นั้นอยู่! จากนั้น Cid กับ Nero (ที่ต้องจำใจมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง! 🤣) ก็ช่วยกันเตรียมความพร้อม ปลดผนึก และเปิดใช้งาน Omega Weapon!

ในจังหวะสุดท้าย Yda (ที่ตอนนี้ดูสับสนและลังเลใจอย่างเห็นได้ชัด) ก็เป็นคนกดปุ่มปล่อย Omega ออกไป! ทันใดนั้น! Omega ก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้า มุ่งหน้าตรงไปยัง Gyr Abania! พร้อมๆ กับที่ Shinryu ได้ทำลาย Cocoon of Light ออกมาอาละวาดพอดี!

และแล้ว! ศึกตัดสินระหว่างสุดยอดอาวุธโบราณ กับ สุดยอด Primal แห่งความแค้น ก็เริ่มต้นขึ้น! OMEGA vs SHINRYU!!! แสงเลเซอร์! กรงเล็บ! พลังมหาศาลปะทะกันสนั่นฟ้า! จนเกิดการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่! แสงสว่างวาบไปทั่ว! …และเมื่อแสงจางลง… ทั้ง Omega และ Shinryu ก็… หายสาบสูญไปทั้งคู่!!! (ไปไหนวะเนี่ย!?) ระบบเซ็นเซอร์ของ Omega ขัดข้อง Cid พยายามส่ง Stasis Code เพื่อตามหามัน…

หลังจากศึกอันน่าตื่นตะลึงจบลง ทุกคนกลับขึ้นยาน Excelsior… และเรา (นักรบแห่งแสง) ก็สังเกตเห็นบางอย่างที่เปลี่ยนไป… ‘รอยสัก’ ที่ต้นคอของ Yda… มันหายไปแล้ว! เอ๊ะ!?

ความจริงเปิดเผย! Yda คือ Lyse น้องสาวผู้สืบทอดเจตนารมณ์! ❤️

เหล่าผู้นำ Eorzean Alliance กลับมาประชุมกันอีกครั้งที่ Gridania เมื่อเห็นถึงความวุ่นวายที่ชายแดน และความมุ่งมั่นของชาว Ala Mhigo (ที่ถูก Ilberd หักหลัง) พวกเขาจึงตัดสินใจครั้งสำคัญ… นั่นคือการ ‘สนับสนุน’ กลุ่มต่อต้าน Ala Mhigan Resistance อย่างเต็มที่! เพื่อเปิดศึกชิง Ala Mhigo คืนมาจากจักรวรรดิ Garlean! โดยมอบหมายให้ Raubahn นำทัพพันธมิตร มุ่งหน้าสู่ Baelsar’s Wall เพื่อเปิดทางสู่ Gyr Abania! (ซึ่ง Raubahn ก็ประกาศก้องว่า เขาจะยึด Ala Mhigo คืนมาให้ได้ เพื่อ Ilberd สหายของเขา! – ถึงจะแค้นที่โดนหลอกใช้ แต่ก็ยังยอมรับในความรักบ้านเกิดของ Ilberd สินะ)

และในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวสำหรับสงครามครั้งใหม่… Yda ก็ได้เปิดเผย ‘ความจริง’ ที่เธอเก็บซ่อนไว้มาตลอด 6 ปี!!!

เธอไม่ใช่ Yda… แต่เธอคือ Lyse Hext (ไลส์ เฮ็กซ์) น้องสาวแท้ๆ ของ Yda! พี่สาว Yda ตัวจริงได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน ในขณะที่พยายามช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากการโจมตีของจักรวรรดิ Garlean… Lyse ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้สวมหน้ากากและใช้ชื่อของพี่สาว เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ในการต่อสู้เพื่อ Ala Mhigo ต่อไป… โดยมีเพียง Papalymo เท่านั้นที่รู้ความจริงนี้มาตลอด…

ก่อนที่ Papalymo จะเสียสละตัวเอง เขาได้ขอให้ Lyse ทิ้งอดีต และเดินตาม ‘เส้นทางของตัวเอง’ ต่อไป… เมื่อสิ้น Papalymo แล้ว Lyse จึงตัดสินใจที่จะ ‘เปิดเผยตัวตน’ ที่แท้จริงของเธอ! เธอถอดหน้ากากออก เผชิญหน้ากับอดีต และพร้อมที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของพี่สาวและครอบครัว ในฐานะ ‘Lyse’ นักสู้เพื่ออิสรภาพของ Ala Mhigo!

พีคมาก! ซึ้งมาก! น้องกลับมาเป็นตัวเองแล้ว! พร้อมกับภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม! 😭❤️

บทส่งท้าย HW สู่รุ่งอรุณแห่ง Stormblood! ☀️

Yugiri และ Gosetsu เมื่อเห็นว่าภารกิจใน Eorzea (ชั่วคราว) เสร็จสิ้นแล้ว ก็ได้เตรียมตัวออกเดินทางกลับสู่บ้านเกิดที่ Doma เพื่อวางแผนต่อสู้กับจักรวรรดิในแผ่นดินของตนเองต่อไป (แต่ก็สัญญาว่าจะกลับมาช่วย Eorzea อีกแน่นอน!)

ในขณะเดียวกัน ณ Ala Mhigo ที่ถูกยึดครอง ผู้บัญชาการใหญ่ของจักรวรรดิ Garlean (ซึ่งก็คือ Zenos yae Galvus สุดโหด!) ก็ได้รับรายงานเรื่องการต่อสู้ของ Omega และ Shinryu… และดูเหมือนเขาจะ ‘สนใจ’ ในพลังอันมหาศาลนั้นเป็นพิเศษ… พร้อมกับรอยยิ้มอันน่าขนลุกในเงามืด…

เรื่องราวในช่วง Patch 3.4 “Soul Surrender” และ Patch 3.5 “The Far Edge of Fate” ได้ปิดฉากยุคสมัยของ Heavensward ลงอย่างสมบูรณ์… ด้วยโศกนาฏกรรม การเสียสละ การเปิดเผยความจริง และการจุดประกายความหวังครั้งใหม่! เป็นการส่งไม้ต่อ ปูทางเข้าสู่ภาคเสริมต่อไปอย่าง Stormblood (4.0) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ! การต่อสู้เพื่อปลดแอก Ala Mhigo และ Doma จากเงื้อมมือของจักรวรรดิ Garlean กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!!!


และแล้ว… เรื่องราวของยุค Heavensward ก็ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการใน Patch 3.4-3.5 แบบที่ว่า… โคตรพีค! โคตรดราม่า! และโคตรอิปิค! 😭🔥 ทั้งแผนการสุดคลั่งของ Ilberd, การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของ Papalymo, การตื่นของ Omega และ Shinryu ในศึกไคจูสะท้านฟ้า, และการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ Lyse! มันคือบทสรุปที่ทั้งเศร้าและเต็มไปด้วยความหวัง! เป็นการส่งท้ายภาคเสริมที่ยอดเยี่ยม และทำให้เราอยากรู้ใจจะขาดว่าเรื่องราวใน Stormblood จะเป็นอย่างไรต่อไป!

แล้วเจอกันในสรุปเนื้อเรื่องภาค 4.0 นะเพื่อนๆ! วันนี้ปิงลาไปก่อน ขอไปเตรียมชุดสวยๆ ไปเที่ยว Ala Mhigo ก่อน! บายจ้า! 👋

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *