สวัสดีครับเพื่อนๆ เกมเมอร์ชาว PingAC ทุกท่าน! กลับมาพบกับผม… หนุ่มวัยกลางคนที่หัวใจยังไฟแรงเฟร่อกับเรื่องเกมๆ อีกแล้วครับท่าน! 😉 วันนี้ผมจะมาพาทุกคนดำดิ่งสู่เรื่องราวสุดเข้มข้นของ Final Fantasy XIV ใน Patch 4.5 ที่มีชื่อตอนว่า “A Requiem for Heroes” หรือชื่อไทยที่เราๆ เรียกกันติดปากว่า “บทเพลงส่งวิญญาณแด่วีรชน” นั่นเอง บอกเลยว่าตอนนี้ดราม่าหนักหน่วง ปริศนาเพียบ แถมทิ้งท้ายได้แบบว่า… อื้อหือ! อยากวาร์ปไปเล่นภาคต่อไปเดี๋ยวนั้นเลย! 🤯
เอาล่ะ เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว อย่ารอช้า ตามผมมาเลยครับ!
😱 เมื่อเหล่าสหายพร้อมใจกัน “หลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี” งานนี้ใครจะช่วย?!
เรื่องมันเริ่มจากน้อง Alisaie สุดที่รักของเราเนี่ยสิครับ กลุ้มใจหนักมากที่เหล่า Scions เพื่อนร่วมแก๊งค์ของเราแต่ละคนนอนเป็นผัก ไม่ยอมตื่นกันซะที 😴 โชคดีที่ Krile แม่หมอ เอ๊ย! ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเธอร์ของเราโผล่มาช่วยพอดี หลังจากตรวจอาการของ Urianger กับ Y’shtola เธอก็ถึงกับบางอ้อว่า… โอ้วแม่เจ้า! เหมือนวิญญาณ (หรือเอเธอร์) ของพวกเขาถูกดึงออกไปจากร่างยังไงยังงั้นเลย!
Krile เลยปิ๊งไอเดียว่าน่าจะตามรอยเอเธอร์ได้เหมือนตอนตามหา Thancred หลังสงคราม Dragonsong War นั่นแหละ แต่งานนี้ต้องยืมพลัง “เนตรคริสตัล” (Crystal Eye) ของยายเฒ่า Matoya อีกแล้วครับท่าน! พอ Matoya รู้ว่า Y’shtola ก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยด้วยเท่านั้นแหละ… “เอาไปเล้ย!” 🤣 Krile ก็ไม่รอช้า ใช้เนตรคริสตัลตามรอยเอเธอร์ของแต่ละคนที่โดนเล่นงานไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันน่าขนลุกกว่าเดิมอีกพี่น้อง! ร่องรอยเอเธอร์มัน… “หายไปดื้อๆ” ครับ! ไม่ได้สลาย ไม่ได้ไหลไปรวมกับ Lifestream แต่เหมือนโดนตัดสายไฟกลางอากาศ! ✂️ ถึงจะยังไม่รู้ว่าวิญญาณหายไปไหน แต่ก็ยังพอมีหวังว่าพวกเขายัง “อยู่ที่ไหนสักแห่ง”
ทันใดนั้น! Alisaie ก็ได้รับ Linkpearl ด่วนจี๋ว่ามีกลุ่ม Imperial Populares (กลุ่มพลเมืองในจักรวรรดิ) แปรพักตร์มาขอเข้าร่วมกับ Ala Mhigo และหนึ่งในนั้นก็คือ Maxima! Alisaie กับนักรบแห่งแสง (ก็เรานี่แหละ!) รีบบึ่งไป Gyr Abania ทันที
🕵️♂️ ความจริงจากปาก Maxima และการปรากฏตัวของ “นักล่าเงา”
พอไปถึง Alisaie ก็เปิดศาลไต่สวน Maxima ทันทีว่าเห็นพี่ชายเธอ Alphinaud บ้างไหม Maxima เล่าว่า Shadowhunter (นักล่าเงา) พาพวกเขาหนีออกจาก The Burn แล้วก็แยกทางกันไป ส่วน Alphinaud พ่อหนุ่มหัวดีของเราดันเลือกที่จะไปร่วมภารกิจกับ Shadowhunter เพื่อสืบเรื่องพวก Ascian แทนที่จะหนีไปกับกลุ่ม Populares ซะงั้น! 🤦♂️
Maxima ยังแฉ เอ๊ย! เล่าข่าวจากในจักรวรรดิอีกว่า แทนที่จะใช้กำลังปราบปรามพวกกบฏแบบถึกๆ เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้จักรวรรดิหันมาใช้ “อาวุธเคมี” ที่สามารถล้มทหารทั้งกองทัพได้ในพริบตา! แถมกองทัพจักรวรรดิก็เริ่มเดินทัพมุ่งหน้ามาทางตะวันตกสู่ Ala Mhigo แล้วด้วย!
Raubahn กับ Lyse พอได้ยินแบบนั้นก็หน้าเครียดเลยครับ กลัวว่าจะตั้งรับไม่ทัน เลยส่งข่าวไปยังผู้นำพันธมิตรทุกคน และวางแผนจะถ่วงเวลาการบุกด้วยการเจรจากับผู้บัญชาการกองทัพจักรวรรดิให้นานที่สุด พร้อมกันนั้นก็ขอให้ Alisaie กับนักรบแห่งแสงเดินทางไป Doma เพื่อแจ้งข่าวนี้ให้ Hien ทราบด้วย
แต่แล้ว… ไอ้เสียงปริศนาที่ทรงพลังจนน่าขนลุกก็กลับมาอีกครั้ง! มันสั่งให้ “เปิดประตู” เพื่อป้องกันหายนะ เล่นเอา Alisaie กับเราเกือบทรุด โชคดีที่ยังประคองตัวไหวแล้วรีบมุ่งหน้าไป Doma ต่อได้
ณ Doman Enclave ท่าน Hien ก็ได้แนะนำพันธมิตรใหม่ของเขา ซึ่งประกอบไปด้วย Confederacy, เหล่า Xaela จากทุ่งหญ้า Azim Steppe, พวก Kojin, Dalmasca และชาติพี่น้องของ Yangxia อย่าง Nagxia Hien ยังบอกอีกว่าพวกเขากำลังเตรียมทดสอบ “บาเรีย Allagan” ใน The Burn และเชิญ Alisaie กับเราไปร่วมเป็นสักขีพยานด้วย แถมยังปรึกษาเรื่องชื่อของแนวป้องกันใหม่นี้อีกต่างหาก เขาเสนอชื่อ “กำแพงเซริว” (Seiryu’s Wall) ตามชื่อหนึ่งในจตุรเทพของโดมะ
🐉 กำแพงเซริว และการกลับมาของ “หมาป่าดำ”
พอไปถึง The Burn ท่าน Hien ก็สั่งให้วิศวกรของ Garlond Ironworks เปิดใช้งานบาเรียทันที! กำแพงแสงระยิบระยับพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงกว่า 15,000 ยาลม์! ทดสอบสำเร็จสวยงาม! 🎉 และแล้วบททดสอบของจริงก็มาถึงไวเหมือนโกหก เมื่อมีเครื่องบินลาดตระเวนขนาดเล็กของจักรวรรดิบินเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถผ่านบาเรียไปได้ เลยต้องจำใจลงจอด
แล้วใครออกมาน่ะเหรอ? Shadowhunter คนเดิม เพิ่มเติมคืออุ้ม Alphinaud ที่หมดสติมาด้วย! ดูเหมือนว่าเสียงปริศนานั่นจะเล่นงานเหยื่อเพิ่มอีกรายแล้ว ทำเอา Alisaie ใจสลาย 💔 พอเราสบตากับ Shadowhunter เท่านั้นแหละ… เฮ้ย! นี่มัน Gaius van Baelsar! “หมาป่าดำ” อดีตบอสใหญ่ในตำนานนี่หว่า! 😱 หลังจาก Castrum Meridianum พังพินาศ Gaius รอดตายมาได้และสาบานว่าจะล้างแค้นพวก Ascian ที่หลอกใช้เขา เขาทิ้งยศถาบรรดาศักดิ์และกลายเป็นนักล่าเงาไร้นาม
Gaius เล่าสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับพวก Ascian ให้ฟัง:
ประเภท Ascian | ลักษณะ/หน้าที่ |
---|---|
Ascian หน้ากากดำ | เป็นลูกน้องของพวกหน้ากากแดง |
Ascian หน้ากากแดง (จาก Shard) | มีตำแหน่งต่ำกว่าพวกหน้ากากแดงที่มาจาก Source |
Ascian หน้ากากแดง (จาก Source) | มี 3 ตนหลักคือ Lahabrea (ถูกเนรเทศไปแล้ว), Elidibus, และ Emet-Selch ผู้ลึกลับ |
Gaius ยืนยันว่าน่าจะเป็น Elidibus ที่ชักใย Zenos อยู่เบื้องหลัง เขายังเล่าถึง “Black Rose” อาวุธสุดอันตรายที่ Maxima พูดถึง และบอกว่าเขากับ Alphinaud สามารถปิดโรงงานผลิตอาวุธนั่นได้ก่อนที่ Alphinaud จะสลบไป แถมยังเจอโรงงานโคลนนิ่ง Allagan ขนาดมหึมาใต้โรงงานนั้นอีก ซึ่งมีร่างโคลนของอดีตจักรพรรดิ Solus ในวัยหนุ่มเป็นโหลๆ! 🥚🥚🥚
พูดจบ Gaius ก็อำลาเราไป ทิ้ง Alphinaud ไว้ให้ดูแล Alisaie ยืนยันว่าอาการของ Alphinaud เหมือนกับคนอื่นๆ เป๊ะ แต่ข่าวดีก็คือ Hien บอกว่าเขาสามารถส่งกำลังเสริมไปช่วย Ala Mhigo ได้มากขึ้นแล้ว เพราะกำแพงเซริวใช้งานได้ผล!
ตัดภาพไปที่จักรวรรดิ จักรพรรดิ Varis กำลังตรวจความเรียบร้อยของโรงงาน Black Rose แห่งใหม่ที่สร้างเสร็จอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Gaius ทำลายโรงงานเก่าไป หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าล็อตแรกจะพร้อมใช้งานทันการบุก Ala Mhigo แน่นอน Solus ก็โผล่มาอีกครั้ง ชม Varis ที่ตัดสินใจเด็ดขาด แถมยังหลุดปากว่าสงครามกลางเมืองที่เกือบทำให้จักรวรรดิล่มสลายหลังจากการ “ตาย” ของเขาโดยไม่ได้ตั้งผู้สืบทอดนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นแผนที่วางไว้เพื่อสร้างความโกลาหลให้โลกมากขึ้นไปอีก! (ร้ายจริงๆ ตาแก่นี่! 😠)
🏛️ การเจรจาที่ล้มเหลว และความจริงอันน่าตกตะลึง
เรา Hien และ Alisaie กลับมาถึง Ala Mhigo ได้ทันเวลาพอดีกับการเจรจาระหว่างพันธมิตร Eorzea กับจักรวรรดิ และที่น่าช็อกคือ จักรวรรดิส่งจักรพรรดิ Varis มาเป็นตัวแทนด้วยตัวเอง! 😱
พอการเจรจาเริ่มขึ้น ทั้งคำพูดทางการทูตและการวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนก็ถูกโยนใส่กันไปมา แต่ทุกครั้ง จักรพรรดิ Varis ก็สามารถบิดเบือนคำพูดเหล่านั้นตอกกลับทุกคนได้หน้าตาเฉย
- Limsa Lominsa สร้างบ้านเมืองโดยไม่รุกรานเพื่อนบ้าน? พวก Kobold จะว่ายังไงล่ะ?
- Ishgard กับ Dravania สงบศึกกันแล้ว? แหม ก็คงง่ายขึ้นเยอะหลังจากฆ่า Nidhogg ไปแล้วสินะ?
ทีละคนๆ จักรพรรดิสวนกลับจนทุกคนเลือดขึ้นหน้า 🔥 มีเพียง Alisaie ตัวแทนจาก Scions of the Seventh Dawn ที่ยังคุมสติอยู่ได้และพูดขึ้นว่าไม่ควรทะเลาะกันเรื่องอดีต แต่ควรมุ่งสร้างอนาคตที่ดีกว่า การเจรจาจึงหยุดพักชั่วคราวให้ทุกคนไปสงบสติอารมณ์
พอกลับมาคุยกันอีกครั้ง ฝ่ายพันธมิตร Eorzea ก็เปลี่ยนแนว ถามตรงๆ เลยว่า Garlemald จะทำสงครามไปเพื่ออะไร? Varis ยิ้มแล้วบอกว่า “ในที่สุดก็ถามคำถามที่ถูกต้องซะที” เขาอธิบายว่าเป้าหมายของเขาคือการ “รวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียว” เหมือนเมื่อครั้งบรรพกาล ไม่ใช่แค่ผู้คน แต่รวมถึงการรวม Shard ต่างๆ เข้ากับ Source เพื่อสร้างโลกที่ไม่แปดเปื้อนขึ้นมาใหม่!
สมาชิกพันธมิตรหลายคนสังเกตว่าคำพูดของจักรพรรดิคล้ายกับที่พวก Ascian เคยพูดไว้ไม่มีผิด Varis จึงเฉลยความจริงอันน่าตกตะลึงว่า… จักรวรรดิ Garlemald ก่อตั้งขึ้นโดย Ascian ซึ่งก็คือปู่ของเขาเอง! 🤯 เล่นเอาพันธมิตรอึ้งกิมกี่ Varis เลยถือโอกาสนี้ย้ำว่าหนทางเดียวที่จะต่อต้านแผนการอันบ้าคลั่งของพวก Ascian ได้คือการรวมเป็นหนึ่งเดียว และเชิญชวนให้พันธมิตร Eorzea ทั้งหมดเข้าร่วมกับจักรวรรดิในฐานะ “พันธมิตร” ไม่ใช่ข้ารับใช้ เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า
พันธมิตรขบคิดถึงคำพูดของจักรพรรดิแล้วก็ตระหนักได้ถึงความหมายที่แท้จริง… นั่นหมายถึง “หายนะอีก 6 ครั้ง!” Shard อีก 6 แห่งและผู้อยู่อาศัยทั้งหมดจะถูกทำลาย! 😨 พันธมิตรทั้งหมดจึงรวมเป็นเสียงเดียวกันปฏิเสธ “คำเชิญ” ของจักรพรรดิและลุกออกจากโต๊ะเจรจา Varis เตือนพวกเขาให้เตรียมตัวสำหรับการพบกันครั้งหน้า เพราะมันจะไม่ใช่ที่โต๊ะเจรจาอีกต่อไป! (ศึกมาแน่ๆ ครับพี่น้อง!)
⚔️ สงครามปะทุ นักรบแห่งแสงล้มลุกคลุกคลาน
เมื่อเส้นแบ่งถูกขีด นักรบแห่งแสงของเราก็กระโจนเข้าสู่สนามรบเพื่อช่วยขับไล่การโจมตีระลอกแรกของจักรวรรดิ หลังจากการต่อสู้อันกล้าหาญเคียงบ่าเคียงไหล่สหายศึก เราก็ได้รับชัยชนะ! 🎉 Alisaie เข้ามาสมทบและเสนอให้เรารุกคืบต่อไปเพื่อชิงความได้เปรียบ แต่ยังไม่ทันขาดคำ ไอ้เสียงประหลาดนั่นก็เล่นงานทั้งคู่อีกครั้ง! มันพูดถึงการหยุดยั้งหายนะแห่งแสงและให้เปิดประตู Alisaie พยายามฝืนสุดชีวิต แต่พอเสียงจางหายไป เธอก็ทรุดฮวบหมดสติไปอีกคน… 😭 (ไม่นะน้องอลีเซ่!)
ขณะที่พันธมิตร Eorzea และกองหนุนจาก Doma เตรียมรับมือการโจมตีระลอกใหม่จากจักรวรรดิ นักรบแห่งแสงของเราก็ต้องจำใจพา Alisaie กลับไปยัง Rising Stones อย่างเศร้าสร้อย ส่วนทางฝั่ง Garlean เจ้าชาย Zenos ในร่างเกราะเหล็ก (ที่ถูก Elidibus สิงอยู่) ก็ก้าวลงจากเรือเหาะ เตรียมเข้าร่วมความขัดแย้งนี้เต็มตัว!
🛌 ฝันประหลาด สู่หนทางใหม่?
ในช่วงเวลาพักรบสั้นๆ นักรบแห่งแสงของเราได้พักผ่อนที่ Rising Stones ก่อนที่แขกไม่ได้รับเชิญจะมาเยือน Maxima นั่นเอง เขามาเยี่ยม Alphinaud และชวนเราไปพบเพื่อนอีกคน… Cid! Cid กับ Maxima สอบถามเราถึงสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการเจรจากับจักรพรรดิและความจริงที่ว่า Gaius ยังมีชีวิตอยู่ แต่คุยกันได้ไม่นานก็มีคนส่งข่าวมาเรียกเรากลับไปที่แนวหน้า Ala Mhigo อีกแล้ว Cid เลยอาสาไปส่งด้วยยาน Excelsior
พอกลับไปถึงแนวหน้า เราก็ได้พบกับ Raubahn เพื่อหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ต่อไป แต่แล้ว… เสียงลึกลับนั่นก็ดังขึ้นในหัวเราอีกครั้ง! มันอ้อนวอนให้เราติดต่อกลับไปและ “เปิดออก” เราพยายามรักษาสติไว้ได้ทันเวลาพอดีกับที่ได้ยินว่า Zenos ทะลวงแนวป้องกันเข้ามาได้แล้ว! เราจึงรีบมุ่งหน้าไปเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
ขณะเดียวกัน Lyse, Hien และ Yugiri ก็เข้าปะทะกับ Zenos เพื่อซื้อเวลาให้เรา Elidibus ที่อยู่ในร่าง Zenos จัดการคู่ต่อสู้ทีละคนอย่างง่ายดาย พลังของชาว Garlean ผสานกับเวทมนตร์ Ascian มันช่างร้ายกาจเกินรับมือ! 😵 แต่ไม่นานนักรบแห่งแสงของเราก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดที่บิดเบี้ยวนี้ Elidibus ดูเหมือนจะประเมินความแข็งแกร่งของเราต่ำไป เพราะเขาต้องดิ้นรนป้องกันตัวเองอย่างหนัก พลังชีวิตของเขาลดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ล้มลง!
แต่!!! ในฐานะ Ascian เขาสามารถฟื้นคืนชีพกลับเข้าร่างเดิมได้ทันที! Zenos ลุกขึ้นมาอีกครั้ง! 😱 ด้วยสภาพที่เราอ่อนล้าจากการต่อสู้ ส่วน Elidibus-Zenos กลับมาสดชื่นเต็มร้อย สถานการณ์พลิกผัน! ซ้ำร้าย เสียงประหลาดนั่นยังแทรกเข้ามาในหัวเราอีกครั้งก่อนที่ Zenos จะเงื้อดาบฟันลงมา! (จะรอดไหมเนี่ยยยย!)
ในสถานที่ประหลาดคล้ายแดนสนธยา นักรบแห่งแสงของเราตื่นขึ้นมาพบกับ “ร่างปริศนา” (Enigmatic Figure) ที่ร่างกายดูเหมือนจะผสมผสานระหว่างเนื้อหนังกับคริสตัล นี่คือชายผู้อยู่เบื้องหลังเสียงที่เล่นงานพวกเรามาหลายครั้ง! เขากล่าวเตือนว่าไม่ว่าเราจะสำเร็จหรือล้มเหลวในความขัดแย้งปัจจุบัน มันก็ไม่สำคัญ และทั้งสองเส้นทางล้วนนำไปสู่ความพินาศของโลกเรา! 😱 อย่างไรก็ตาม เขาเชิญเราให้ไปยัง “The First” หนึ่งใน Shard ของ Source เพื่อค้นหาเส้นทางที่แท้จริง ร่างปริศนายังบอกอีกว่าเขาได้ทิ้ง “สัญญาณ” ไว้ให้เราที่ฐานของ Crystal Tower
แล้วเราก็สะดุ้งตื่นบนเตียง! ปรากฏว่าเราถูกพามาพักฟื้นที่ Ishgard Aymeric มาอธิบายว่า Estinien เพื่อนซี้ของเรานี่เองที่ช่วยพาเราหนีออกมาก่อนที่ Zenos-Elidibus จะลงดาบสุดท้ายได้ทัน! Aymeric ยังแจ้งข่าวดีว่าเมื่อ Zenos และจักรพรรดิถอยทัพ กองกำลังจักรวรรดิที่เหลือก็กลับไปตั้งหลัก ทำให้ความขัดแย้งทั้งหมดอยู่ในภาวะจนมุม และข่าวนี้ก็จุดประกายให้เกิดการลุกฮือขึ้นในจังหวัดต่างๆ ของจักรวรรดิ! 👍
👑 ความขัดแย้งใน Garlemald และแผนการสุดท้าย?
ย้อนกลับไปที่ Garlemald จักรพรรดิ Varis กับ Zenos-Elidibus กำลังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงว่าใครกันแน่ที่ทำภารกิจล้มเหลว Varis ถอยทัพก็จริง แต่ Zenos-Elidibus ก็เคยโม้ไว้ว่าจะจัดการนักรบแห่งแสงได้อย่างง่ายดาย Zenos ถามหา Solus แต่ Varis ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปู่ของเขาหายหัวไปไหน แม้แต่พวก Ascian คนอื่นๆ ก็ไม่รู้! 🙄 Zenos-Elidibus จากไป แต่ก่อนไป Varis ก็ย้ำเตือนว่า “มือของมนุษย์” เท่านั้นที่จะกำหนดอนาคต ไม่ใช่พวก Ascian และเพื่อการนั้น เขาจะใช้พลังทั้งหมดในฐานะจักรพรรดิเพื่อให้แน่ใจว่าจักรวรรดิของเขาจะประสบความสำเร็จ
พอ Zenos-Elidibus ออกไป หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ก็เข้ามาแจ้งจักรพรรดิว่าอาวุธชีวภาพ Black Rose ล็อตใหม่พร้อมใช้งานแล้ว และ Varis ก็แสยะยิ้มอย่างน่าขนลุก… (คิดจะทำอะไรอีกแล้วเนี่ยตาจักรพรรดิ!)
✨ สู่การผจญภัยครั้งใหม่ที่ Crystal Tower
นักรบแห่งแสงของเรากลับไปยัง Rising Stones เพื่อพบกับ Tataru และสมาชิก Scions ที่ไม่ได้เป็น Archon ที่เหลืออยู่ ท่ามกลางใบหน้าที่คุ้นเคยและอบอุ่น เราได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องร่างปริศนาที่เชิญเราไปยังโลกคู่ขนาน
Tataru คนเก่งของเราสันนิษฐานว่าถ้าร่างปริศนานั่นคือผู้อยู่เบื้องหลังเสียงที่เหล่า Archon ได้ยิน เขาก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการป่วยของพวกเขา และ “The First” ที่เขาพูดถึงนั่นแหละ อาจจะเป็นที่ที่วิญญาณของเพื่อนๆ เราถูกส่งไป! Tataru จึงกระตุ้นให้เราตอบรับคำเชิญนั้น และหาทางพาเพื่อนๆ กลับมา เพื่อที่เราจะได้เผชิญหน้ากับ Zenos และจักรวรรดิไปด้วยกัน! 💪
ขณะเดียวกัน ณ แนวหน้า Ala Mhigan ทหารนิรนามผู้ใช้ดาบคาตานะ (ซึ่งก็คือ Zenos ตัวจริงที่วิญญาณยังอยู่) ยังคงตามหาศัตรูหนึ่งเดียวและสหายหนึ่งเดียวของเขาต่อไป เขารู้ว่านักรบแห่งแสงได้จากไปยังที่ที่เขาตามไปไม่ได้ แต่ก็กระตุ้นให้เราแข็งแกร่งและดุดันยิ่งขึ้น เพื่อให้การต่อสู้ครั้งต่อไปของพวกเขารุ่งโรจน์ยิ่งกว่าเดิม ในระหว่างนี้ เขาจะพยายามทวงคืนสิ่งที่โดยชอบธรรมของเขากลับคืนมาใน Garlemald
และบัดนี้… นักรบแห่งแสงของเรายืนอยู่บนขอบของการผจญภัยครั้งใหม่ ขณะที่ทอดสายตามองไปยัง Crystal Tower… 🌟 การเดินทางสู่ Shadowbringers กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!
โอ้โห! เป็นไงกันบ้างครับเพื่อนๆ เนื้อเรื่อง Patch 4.5 นี่มันพีคในพีคจริงๆ! 🤯 ทั้งปริศนา ทั้งดราม่า ทั้งการเปิดตัวละครใหม่ (และเก่า!) บอกเลยว่าเล่นเอาผมแทบนั่งไม่ติด อยากรู้เลยว่าเรื่องราวใน The First จะเป็นยังไงต่อไป แล้วเราจะช่วยเพื่อนๆ Scions กลับมาได้ไหม? แล้วศึกกับจักรวรรดิ Garlemald ล่ะ? คำถามเต็มหัวไปหมด! 😵
สำหรับใครที่เล่น FFXIV อยู่แล้ว หรือกำลังคิดจะลองเล่น ผมบอกเลยว่าเนื้อเรื่องเกมนี้เข้มข้นไม่แพ้นิยายดีๆ เรื่องนึงเลยล่ะครับ! 👍 เอาไว้มีโอกาสจะมาเหลา เอ๊ย! เล่าเรื่องราวสนุกๆ ในโลก Eorzea ให้ฟังกันอีกนะครับ สำหรับวันนี้ หนุ่ม PingAC ขอตัวไปฟาร์มของ เอ๊ย! ไปทำภารกิจต่อก่อนนะคร้าบ! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า! สวัสดีครับ! 😉🎮