เฮ้! เพื่อนๆ แฟนผี (หรือแฟนบอลรุ่นเก๋าหน่อย) จำช็อตในตำนานเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้ไหม? ไอ้ลูกยิงไกลครึ่งสนามของ เปโดร เมนเดส ในเกมที่แมนยูเปิดบ้านเจอสเปอร์ส ปี 2005 น่ะ! ที่โกลเราพลาดรับเข้าประตูไปแล้ว แต่กรรมการดันมองไม่เห็นซะงั้น! 🤣 วันนี้ปิงจะพาไปย้อนรอยเรื่องราวของ รอย แคร์โรลล์ (Roy Carroll) อดีตนายทวารมือสอง เอ๊ย! นายทวารของแมนยูในยุคนั้น เจ้าของช็อตสุดเหวอ (แต่ไม่ได้ประตู!) ที่กลายเป็นมีม และถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้! เรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมคนยังจำแม่น ไปดูกัน!
ช็อตช็อกโลก! ‘ประตูผีควัก’ ที่ไม่ได้ประตูหลัก (เพราะ… อะไรนะ? 🤔)
คือเรื่องของเรื่องเนี่ย พี่รอยแกเล่าเองเลย (พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ 😉) ว่าตอนนั้นบอลมันลอยโด่งมา กะจะรีบคว้าแล้วขว้างให้ แกรี่ เนวิลล์ เติมเกมบุกต่อ แต่ดันกะจังหวะพลาดไงเพื่อน! ละสายตาจากบอลไปเสี้ยววิฯ บอลตกใส่หน้าอก กระฉอกข้ามไหล่ ข้ามเส้นประตูไปแล้วเต็มๆ!
แต่ด้วยความไวแสง (หรือสัญชาตญาณเอาตัวรอด?) พี่แกรีบตะครุบ เอ๊ย! ควักบอลออกมาจากเส้นหน้าตาเฉย! แล้วทำไงต่อ? ก็เตะบอลทิ้งไป เล่นต่อสิครับ! 🤣 กรรมการกับไลน์แมนก็ดันมองไม่ทันซะด้วย (สมัยนั้นไม่มี VAR ช่วยชีวิตนะจ๊ะ) สรุปคือ… ไม่ได้ประตูจ้าาา! กลายเป็น “ประตูผีควักที่เซฟประตูไว้ได้” ในตำนานไปโดยปริยาย
“บอลมันไม่ข้ามเส้นซะหน่อย! ผมแค่กลับมาเซฟทันพอดี!” แคร์โรลล์ยังคงยืนยัน (พร้อมยิ้ม) แม้เวลาจะผ่านไป 20 ปี… เชื่อเค้าเลย! 😂
จากเด็กบ้านๆ สู่โรงละครแห่งความฝัน 🏟️
ก่อนจะมาเป็นเจ้าของช็อตระดับตำนานเนี่ย พี่รอยแกก็เป็นเด็กหนุ่มจากเมืองเล็กๆ ชื่อ เอนนิสกิลเลน ในไอร์แลนด์เหนือ (ประชากรหมื่นกว่าคนเอง!) ที่มีความฝันอยากเป็นนักบอลอาชีพเหมือนเด็กทั่วไปนั่นแหละ เริ่มต้นเซ็นสัญญาอาชีพกับ ฮัลล์ ซิตี้ ก่อนจะย้ายมา วีแกน แล้วฟอร์มไปเตะตาป๋าเฟอร์กี้ ตอนแมนยูมาเตะเปิดสนามใหม่ให้วีแกนนั่นแหละ
“ตอนนั้นมีข่าวลือว่าแมนยูสนใจผม แต่จริงๆ ผมเกือบจะได้ไป เลสเตอร์ กับ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ แล้วนะ แต่ดีลมันล่มไปซะก่อน ตอนนั้นก็เซ็งๆ อยู่” แคร์โรลล์เล่า “แต่แล้วเอเยนต์ก็โทรมาบอกว่า เซอร์ อเล็กซ์ อยากเจอ! ป๋าบอกว่าแกจับตาดูผมมาตั้งแต่เกมเปิดสนามใหม่นั่นแหละ”
การได้ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันคือฝันที่เป็นจริงสุดๆ ของแกเลยเพื่อน! “บางทีผมยังคิดเลยนะว่าฝันไปรึเปล่าวะเนี่ยที่ได้เล่นให้แมนยู? แต่พอมองดูเสื้อ ดูเหรียญแชมป์ที่มีอยู่ไม่กี่อัน เออ… เรื่องจริงนี่หว่า! ผมไม่มีวันลืมช่วงเวลานั้นเลย”
ซ้อมโหด สังคมเทพ! ชีวิตในแคร์ริงตัน 🏋️♂️
การได้มาอยู่กับยอดทีมอย่างแมนยู มันเปิดโลกให้แคร์โรลล์มากๆ การซ้อมนี่เข้มข้นสุดๆ ทุกคนใส่เต็มร้อยตลอด แถมพวกซีเนียร์ระดับตำนานอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, ไรอัน กิ๊กส์, แกรี่ เนวิลล์ เนี่ย ซ้อมเสร็จยังอยู่ซ้อมพิเศษต่ออีก!
“นั่นเป็นครั้งแรกเลยที่ผมเคยเห็นอะไรแบบนี้” แคร์โรลล์ยอมรับ “เวลาเบ็คแฮมชวนให้ไปยืนเป็นกำแพงซ้อมยิงฟรีคิกให้ ใครจะกล้าปฏิเสธล่ะ! มันสอนอะไรผมเยอะมาก แล้วพอ โรนัลโด้ กับ รูนี่ย์ เข้ามานะ โอ้โห… ยกระดับทีมขึ้นไปอีกขั้นเลย ป๋าเฟอร์กี้แกสุดยอดจริงๆ เรื่องการดึงนักเตะที่ใช่ ในเวลาที่ใช่เนี่ย”
แถมยังมีกัปตันอย่าง รอย คีน ที่คอยกระตุ้น (หรือจวก?) ให้ทุกคนทุ่มเท 100% ตลอดเวลาทั้งตอนซ้อมตอนแข่ง นี่แหละฟุตบอลยุคนั้น! โหดจริง!
ที่น่าทึ่งคือ พี่รอยแกแทบไม่เคยมีโค้ชผู้รักษาประตูแบบฟูลไทม์เลยจนกระทั่งย้ายมาแมนยูนี่แหละ! (สมัยฮัลล์ มีโค้ชมาดูให้แค่เดือนละ 2 ครั้ง!) แต่แกก็ยังไต่เต้ามาถึงจุดสูงสุดได้ เก่งเหมือนกันนะเนี่ย!
เหรียญแชมป์ ความสำเร็จ และ…คู่แข่งสุดเฟี้ยว 🏆
ถึงจะเป็นมือสองรองจาก ฟาเบียง บาร์กเตซ แต่แคร์โรลล์ก็มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของทีมนะ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 10 นัดในฤดูกาล 2002/03 เพียงพอให้ได้เหรียญแชมป์ลีกไปคล้องคอเท่ๆ แถมยังได้เหรียญแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2004 อีกด้วย!
“การได้กลับบ้านพร้อมเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเอฟเอคัพ มันเหมือนฝันเลย” แคร์โรลล์กล่าว “ผมรู้ว่านัดชิงเอฟเอคัพ ผมได้ลงแค่ 10 นาทีสุดท้าย แต่ป๋าก็ให้โอกาสผม เพราะผมเล่นดีพอตัวในรอบรองฯ ที่เจออาร์เซน่อล ผมเคารพป๋ามากที่ให้เกียรตินั้น”
พลาดครั้งเดียว จำไปตลอดชีวิต (โดยเฉพาะถ้าเป็นโกลผี!) 😅
แต่ก็นั่นแหละครับเพื่อนๆ ช็อตพลาด “ประตูผีควัก” มันดันมาเกิดในฤดูกาลสุดท้ายของแกกับแมนยูพอดี! ซึ่งแกก็เอามาเล่าติดตลก แถมยังใช้สอนผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่แกโค้ชอยู่ด้วย
“ผมบอกเด็กๆ เสมอว่า ปฏิกิริยาผมตอนนั้นน่ะดีนะ (ที่รีบควักบอลออกมา 🤣)” แกเล่าขำๆ “แต่สาเหตุที่พลาดจริงๆ คือผมละสายตาจากบอลไงล่ะ! พอพลาดในสนามซ้อมน่ะ ไม่ต้องกังวล มันเป็นที่ที่ให้เราพลาดได้ แต่ถ้าพลาดในสนามจริงที่มีคนดู 7 หมื่นคนแบบนั้น… มันก็เรื่องใหญ่น่ะสิ!”
แกยังบอกอีกว่า เข้าใจหัวอกโกลแมนยูยุคนี้ดี (พูดถึงตอน โอนาน่า พลาดติดๆ กัน) ว่ามันกดดันมหาศาลแค่ไหน “การเป็นผู้รักษาประตูแมนยูมันไม่ง่ายเลยนะ คุณอาจจะเป็นโกลที่เก่งที่สุดในโลก แต่ถ้าพลาดเมื่อไหร่ คุณเตรียมขึ้นหน้าหนึ่งได้เลย เพราะนี่คือสโมสรที่ใหญ่มากๆ”
แคร์โรลล์เองก็เคยผ่านช่วงเวลายากลำบากเรื่องสุขภาพจิตเหมือนกัน แกเลยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก “อาชีพโกลเนี่ย มันอาจจะมีช่วงเวลาแย่ๆ มากกว่าช่วงดีๆ ด้วยซ้ำไป”
วันที่ต้องโบกมือลา / บทเรียนชีวิต และการไถ่โทษที่โอลิมเปียกอส 👋🇬🇷
น่าแปลกที่ในเดือนเดียวกับที่เกิดเรื่อง “ประตูผีควัก” ป๋าเฟอร์กี้ดันยื่นสัญญาใหม่ 4 ปีให้แคร์โรลล์ซะงั้น! แต่สุดท้ายแกก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เพราะต้องการโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงสม่ำเสมอมากกว่า
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากนะ ผมอยู่ที่แมนยู 4 ปี มันคือฝัน แต่ผมแค่อยากลงเล่นทุกสัปดาห์ ก็เลยต้องย้าย” แกอธิบาย “แต่ป๋าก็ยังสุดยอดนะ หลังจากคุยกันตอนมกราคม แกก็ยังส่งผมลงเล่นตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่น ทั้งๆ ที่จะจับผมนั่งยาวเลยก็ได้”
แต่การอำลาทีมมันก็ดันจบไม่สวยเท่าไหร่ เพราะนัดสุดท้ายคือเกมนัดชิง เอฟเอ คัพ ปี 2005 ที่แมนยูดันไปแพ้จุดโทษอาร์เซน่อลซะนี่!
หลังจากออกจากแมนยู แคร์โรลล์ก็พเนจรไปเล่นให้หลายทีม ทั้ง เวสต์แฮม, เรนเจอร์ส, ดาร์บี้ และอีกมากมาย ช่วงที่อยู่เวสต์แฮม แกเจอปัญหาบาดเจ็บจนทำให้ต่อสู้กับภาวะติดเหล้าและซึมเศร้า แต่แกก็กลับมาได้ และช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของแกก็คือตอนไปเล่นที่ กรีซ กับ โอลิมเปียกอส
“ที่นั่นมันสุดยอดมาก ผมเรียกมันว่า มินิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย เพราะเป็นสโมสรที่ใหญ่มากในกรีซ ได้ไป แชมเปี้ยนส์ลีก หรือ ยูโรปาลีก ตลอด” แกเล่าอย่างมีความสุข แถมแฟนบอลโอลิมเปียกอสยังยกให้แกเป็น Cult Hero ด้วยนะ! เพราะเกมแรกที่แกได้ลงสนามให้ทีม (เป็นตัวสำรองในยูโรปาลีก รอบ 32 ทีม) ลงมาปุ๊บ สัมผัสแรกคือการ เซฟจุดโทษ ได้เลย! โคตรพระเอก!
“ตอนนั้นที่มอสโก อากาศ -13 องศา หนาวมาก! การได้ลงไปเซฟจุดโทษแบบนั้นมันมีความหมายกับผมมากจริงๆ” มันเหมือนเป็นการไถ่โทษจากนัดชิงเอฟเอคัพที่แพ้จุดโทษอาร์เซน่อลแบบสวยๆ เลยทีเดียว
ถึงจะผ่านอะไรมาเยอะแยะ คว้าแชมป์ลีก เซฟจุดโทษสำคัญในเกมยุโรป แต่สุดท้ายแล้ว… ชื่อของ รอย แคร์โรลล์ ก็ยังถูกจดจำมากที่สุดจากช็อต “ประตูผีควัก” ในตำนานนั่นแหละเนอะ! 🤣 แต่พี่แกก็ดูจะยอมรับและอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขนะ แถมยังเอามาเล่าขำๆ ได้อีก เป็นอีกหนึ่งสีสันและเรื่องราวที่น่าจดจำของวงการฟุตบอลจริงๆ ครับเพื่อนๆ!
ว่าแต่… เพื่อนๆ จำช็อตนั้นได้แม่นเหมือนปิงป่าว? หรือมีเรื่องราวของพี่รอยที่ประทับใจอื่นๆ อีกไหม? เล่าสู่กันฟังได้นะ! วันนี้ปิงไปก่อน บายยย! 😉