สรุปเนื้อเรื่องเกม FFXIV 2.3
FFXIV LORE

FFXIV สรุปเนื้อเรื่อง แพทช์ 2.3 : Crystal Braves ก่อตั้ง! ปะทะเทพสายฟ้า Ramuh!

กลับมาอีกแล้วเพื่อนๆ! ปิงเจ้าเก่าคนเดิม เพิ่มเติมคือสรุปเนื้อเรื่อง FFXIV แพทช์ต่อไป! หลังจากแพทช์ 2.2 ทิ้งปมชวนปวดหัวไว้เพียบ ทั้งเรื่องผู้ลี้ภัยชาว Doma ทั้ง Leviathan จ้าวสมุทรสุดโหด ไหนจะตาเฒ่า Teledji ที่ดูมีแผนร้ายอีก! มาดูกันต่อเลยว่าใน Patch 2.3 ‘Defenders of Eorzea’ เนี่ย ชีวิตของนักรบแห่งแสงอย่างเราๆ จะต้องไปเจอกับอะไรให้วุ่นวายกันต่อ! บอกเลยว่ามีทั้งหน่วยงานใหม่ถอดด้าม ทั้ง Primal ระดับตำนานโผล่มาอีกแล้ว! ลุยยย!

พี่อัลฟี่งอน! ตั้ง GC ใหม่ ‘Crystal Braves’ ซะเลย! 🛡️

เปิดแพทช์มา พ่อหนุ่มเอลฟ์ฝาแฝดสุดหล่อ (แต่แอบหัวร้อนง่ายนิดๆ 😅) อย่าง Alphinaud (อัลฟิโนด์ หรือ อัลฟี่) ของเราเนี่ย ดูจะผิดหวังสุดๆ กับท่าทีของ Grand Company ทั้งสามเมืองที่ไม่ยอมช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาว Doma อย่างเต็มที่ (ในแพทช์ก่อน) เพราะมัวแต่ห่วงผลประโยชน์ของเมืองตัวเอง ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรวมพลังกันสู้ศึกใหญ่มาหมาดๆ

พี่อัลฟี่เลยปิ๊งไอเดีย! “ในเมื่อพวกเจ้าพึ่งไม่ได้ ข้าตั้งองค์กรใหม่เองซะเลย!” ว่าแล้วแกก็ริเริ่มก่อตั้ง Grand Company แห่งที่สี่ ขึ้นมา ชื่อว่า “Crystal Braves”! โดยมีคอนเซ็ปต์สุดคูลคือ เป็นองค์กรอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับเมืองไหนทั้งนั้น เป้าหมายหลักคือการรักษาสันติภาพและปกป้อง Eorzea โดยรวม ไม่ใช่แค่เมืองใดเมืองหนึ่ง!

แล้วจะหาคนมาจากไหนล่ะ? พี่อัลฟี่แกฉลาดครับ! ใช้ชื่อเสียงอันโด่งดังของ “นักรบแห่งแสง” (ก็พวกเรานี่แหละ! ✨) เป็นแม่เหล็กดึงดูดเหล่าผู้กล้าจากทั่ว Eorzea ให้มาร่วมอุดมการณ์! ถึงจะเจอปัญหาติดขัดบ้างนิดหน่อย แต่สุดท้าย พี่อัลฟี่ก็สามารถก่อตั้งหน่วย Crystal Braves ขึ้นมาได้สำเร็จ! (ปรบมือสิคร้าบ! 👏)

เรื่องวุ่นๆ ใน Ul’dah: แผนร้ายใต้พรม & อาวุธมหาประลัย! 💥

ในขณะที่อัลฟี่กำลังสร้างหน่วยใหม่ ทางฝั่ง Ul’dah ก็มีเรื่องให้ปวดหัวไม่หยุด! ท่านแม่ทัพ Raubahn (ราอูบาน) รายงานว่าเกิดเหตุจลาจลขึ้นในหมู่ผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่รอบๆ เมือง ซึ่งท่านแม่ทัพสงสัยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังยุยงปลุกปั่นก็คือ… ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ Teledji Adeledji เจ้าเก่าเจ้าเดิมนั่นแหละ!

เป้าหมายของ Teledji ที่ Raubahn สงสัยก็คือ ต้องการผลักดันร่างกฎหมาย Carteneau Reclamation Bill ให้ผ่านสภาให้ได้ ซึ่งกฎหมายนี้จะอนุญาตให้เอกชน (อย่างบริษัทของตาเฒ่า Teledji นี่แหละ!) เข้าไปพัฒนาพื้นที่ Carteneau Flats (สมรภูมิที่เราสู้กับ Bahamut ตอน Calamity นั่นแหละ) ให้กลายเป็นที่ตั้งถิ่นฐานและแหล่งทำธุรกิจใหม่ๆ ฟังดูเหมือนดีใช่ไหม? แต่เบื้องหลังมันมีอะไรมากกว่านั้น!

เพราะมีข่าววงในหลุดมาว่า ในซากปรักหักพังของดวงจันทร์ Dalamud ที่ตกอยู่ใน Carteneau Flats น่ะ มันมีสุดยอดอาวุธโบราณของชาว Allagan ซ่อนอยู่ ชื่อว่า “Omega Weapon”! ว่ากันว่าพลังทำลายล้างของมันอาจจะเทียบเท่า หรือโหดกว่า Ultima Weapon ซะอีก! สุลต่านานาโมะกับ Raubahn เลยสงสัยว่าไอ้กฎหมายที่ Teledji พยายามผลักดันเนี่ย จริงๆ แล้วแกแค่อยากจะเข้าไปกอบกู้ Omega มาใช้เพื่อผลประโยชน์ตัวเองรึเปล่า!? เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน!

เทพสายฟ้าจุติ! Ramuh ปรากฏตัว! ⚡🧔

เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์ เรื่องใหม่ก็แทรกเข้ามาอีก! คราวนี้เป็นทางฝั่งป่าทึบ Black Shroud เมื่อจู่ๆ เทพสายฟ้าเครางาม Ramuh (รามู) Primal ประจำเผ่า Sylphs (ซิลฟ์) ก็ถูกอัญเชิญขึ้นมาซะงั้น! สร้างความงงงวยให้กับทุกคน เพราะปกติแล้วพวก Sylph เนี่ยรักสงบ และเคยสัญญาไว้ว่าจะไม่เรียกท่านปู่ Ramuh ออกมา ถ้าดินแดน Sylphlands ของพวกเขาไม่ถูกคุกคามจริงๆ

ที่แปลกคือ พอ Ramuh โผล่ออกมาแล้ว พวก Sylph ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะบุกรุกหรือทำร้ายใครนอกเขตแดนตัวเองเลย อ้าว! แล้วเรียกท่านปู่ออกมาทำไมล่ะเนี่ย? งานนี้กลุ่ม Scions (ยกเว้นเจ๊ Minfilia ที่อยู่เฝ้าฐาน) เลยต้องยกโขยงกันไปสืบหาความจริงถึงใน Sylphlands โดยมีพ่อหนุ่ม Urianger ขอติดสอยห้อยตามไปด้วย เพราะอยากจะศึกษาผลกระทบของการอัญเชิญ Primal ต่อกระแส Aether ในพื้นที่นั้นๆ ด้วย

คุยกับปู่ Ramuh (แต่ต้องผ่านด่านทดสอบก่อน!) ⚔️

พอไปถึงถิ่นพวก Sylph ก็เล่นตลกตามสไตล์เลย แปลงร่างหลอกล่อพวกเราซะงั้น! แต่นักรบแห่งแสงอย่างเรามีหรือจะกลัว! สุดท้ายเรากับพรรคพวกก็บุกฝ่าไปจนได้เข้าเฝ้าท่านปู่ Ramuh จนได้ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น! เพราะท่านปู่แกไม่ค่อยไว้ใจมนุษย์เท่าไหร่ (ก็แหงล่ะ โดนมนุษย์ทำร้ายมาเยอะนี่นา)

ท่านปู่เลยบอกว่า “อยากคุยกับข้าเรอะ? พิสูจน์ตัวเองให้ข้าเห็นก่อนสิว่าพวกเจ้าคู่ควร! มาสู้กับข้า!!!” ว่าแล้วก็เกิด Trial ปะทะเทพสายฟ้าขึ้น! ⚡ หลังจากที่เราโชว์เทพ สู้กับท่านปู่ได้อย่างสูสี (และชนะในที่สุด ✌️) ท่านปู่ Ramuh ก็ยอมรับในตัวเรา และกลุ่ม Scions พร้อมทั้งมอบพรให้เราเป็นเหมือน “ผู้พิพากษา” หรือ “ผู้ไกล่เกลี่ย” คอยตัดสินข้อพิพาทระหว่างมนุษย์กับพวก Sylph ในเขต Black Shroud ต่อไป ถือว่าจบลงด้วยดีไปเปราะหนึ่ง

ไขความลับ Ascian? Urianger มีทฤษฎี! 💡

หลังจากกลับมาจากพบปู่ Ramuh พ่อหนุ่ม Urianger ที่ได้ข้อมูลอะไรบางอย่างมาจากการต่อสู้และการสังเกต Aether ก็เริ่มตั้งทฤษฎีสุดล้ำเกี่ยวกับพวก Ascians ตัวแสบขึ้นมาครับ!

Urianger อธิบายว่า ปกติเนี่ย พลังงาน Aether ในโลก Hydaelyn มันจะไหลเวียนเป็นวัฏจักร พอสิ่งมีชีวิตตายลง Aether ที่ประกอบเป็นร่างและจิตวิญญาณก็จะสลายกลับคืนสู่กระแสธารหลัก (Lifestream) เพื่อรอวันที่จะก่อกำเนิดเป็นชีวิตใหม่ต่อไป วนๆ กันไปแบบนี้ ส่วนพวก Primal เนี่ย ก็คือตัวตนที่เกิดจาก Aether ที่ถูกอัญเชิญขึ้นมาโดยใช้คริสตัลเป็นตัวยึดเหนี่ยวให้อยู่ในรูปร่างกายภาพได้ชั่วคราว

แต่! ไอ้พวก Ascian ชุดดำจอมป่วนเนี่ย มันดันอยู่ “นอก” วัฏจักรนี้! คือพอร่างกายเนื้อของพวกมันถูกทำลาย Aether ที่เป็นตัวตนของมันไม่ได้สลายกลับเข้า Lifestream เหมือนคนอื่น แต่ดันวาร์ปกลับไปยัง “ดินแดนแห่งความมืด” หรือมิติของพวกมันแทน! ทำให้พวกมันเหมือนเป็นอมตะ กลับมาเกิดใหม่ในร่างอื่นได้เรื่อยๆ!

Urianger เลยปิ๊งไอเดียว่า… “หรือว่า… เราจะสามารถดักจับ Aether ของพวก Ascian ได้ ในจังหวะที่ร่างเนื้อของมันเพิ่งถูกทำลาย และ Aether กำลังจะวาร์ปกลับบ้านของมัน!? ถ้าเราหากรงพลังงาน Aether ที่แข็งแกร่งพอมาขังมันไว้ก่อนที่มันจะหนีกลับไปได้ล่ะ!? ก็เหมือนกับเราขังวิญญาณมันไว้ ไม่ให้ไปเกิดใหม่ได้นั่นเอง!”

โอ้โห! ฟังดูเป็นทฤษฎีที่มีลุ้นเลยนะเนี่ย! ถ้าทำได้จริง เราอาจจะมีวิธีจัดการกับพวก Ascian ที่ดูเหมือนจะฆ่าไม่ตายซักทีก็ได้! ต้องรอดูว่าทฤษฎีนี้จะเอาไปใช้จริงได้รึเปล่า!


โอ้โห! บอกเลยว่า Patch 2.3 นี่เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเยอะมาก! ทั้งการก่อตั้งหน่วย Crystal Braves ของพี่อัลฟี่ที่ดูเหมือนจะมาช่วยแบ่งเบาภาระเรา (รึเปล่านะ? 🤔), เรื่องดราม่าการเมืองใน Ul’dah ที่มีอาวุธสุดยอด Omega เป็นเดิมพัน, การไปเจรจา (ด้วยกำปั้น!) กับท่านปู่ Ramuh จนกลายเป็นพันธมิตรกัน, แถมด้วยทฤษฎีสุดล้ำในการจัดการกับพวก Ascian อีก! เรื่องราวมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนขึ้นทุกทีจริงๆ เพื่อนๆ!

แล้ว Patch 2.4 จะมีอะไรรออยู่? พวก Ascian จะโดนจับขังวิญญาณไหม? Teledji จะทำอะไรต่อ? Omega จะถูกปลุกขึ้นมาหรือไม่? ต้องติดตามกันต่อไป! วันนี้ปิงลาไปก่อน สวัสดีคร้าบ! 👋

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *