บทนำ: คนนอกวงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่
ต้องยอมรับตรงๆ เลยว่าก่อนหน้านี้ผมไม่เคยแตะต้องซีรีส์ Persona มาก่อนสักครั้ง ไม่มีพื้นฐาน ไม่มีความรู้ ไม่รู้จักตัวละครคนไหนเลย แต่แล้วสิ่งหนึ่งก็ดึงดูดผมเข้ามา… “สไตล์” ที่มันเท่สุดๆ
อาร์ตเวิร์กสีแดง-ดำที่ตะโกนความเป็นตัวเอง, UI ที่ดูโก้เหมือนนิตยสารแฟชั่น, และเพลงประกอบที่ได้ยินแค่ชิ้นเดียวก็รู้เลยว่า “นี่มันไม่ธรรมดา” มันเหมือนเกมกำลังชวนผมว่า “มาสิ… มาเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งจอมโจร”
และผมก็ตอบตกลง… โดยไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่จะทำให้ชีวิตผมหายไป 100+ ชั่วโมง (และยังอยากเล่นอีก)
สไตล์ที่ทำให้คุณลืมตาไม่ลง
ถ้าจะให้ผมบอกว่าอะไรคือจุดเด่นที่สุดของ Persona 5 Royal คำตอบคือ “ทุกอย่าง” เพราะมันคือเกมที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด จนรู้สึกเหมือนกำลังเล่น “งานศิลปะที่มีชีวิต”
- UI/UX ที่เป็นตัวตน: แม้แค่หน้าจอเมนูก็ดูเท่ระดับปกนิตยสาร Vogue เวลาเลื่อนเมนู มันมีอนิเมชั่น มีเสียง มีสีสัน ทุกอย่างไหลลื่นและมีสไตล์จนคุณอยากถ่ายภาพหน้าจอทุกวินาที
- อาร์ตสไตล์อนิเมะที่โดดเด่น: ตัวละครทุกคนออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ สีสันจัดจ้าน และดูเท่ห์ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร
- ฉากต่อสู้ที่เป็นงานศิลปะ: จาก All-Out Attack ที่ปิดฉากด้วยภาพสไตล์การ์ตูนสุดโก้ ไปจนถึงอนิเมชั่นการเรียก Persona ที่ดูวิจิตรตระการตา
เกมเพลย์: เมื่อการเป็นนักเรียนกลางวันกลายเป็นจอมโจรยามค่ำคืน
Persona 5 Royal ไม่ใช่แค่เกม RPG ธรรมดา มันคือเกมที่ให้คุณ “ใช้ชีวิตสองหน้า” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ชีวิตกลางวัน: สร้างสัมพันธ์และพัฒนาตัวเอง
ตอนกลางวันคุณคือนักเรียนม.ปลายธรรมดา (แต่ไม่ธรรมดาเลย!) ที่ต้อง:
- สร้างความสัมพันธ์ (Confidants): คุยกับเพื่อนๆ ครู คนในเมือง แต่ละคนมีเรื่องราวที่น่าสนใจและให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาจริงๆ
- พัฒนา Social Stats: อ่านหนังสือในรถไฟใต้ดิน, ดูหนัง, ทำงานพาร์ทไทม์ ทุกอย่างมีผลต่อสถานะตัวเอง
- ใช้เวลาอย่างชาญฉลาด: เวลามีจำกัด คุณต้องเลือกว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน มันทำให้รู้สึกว่า “ทุกวันมีค่า”
ชีวิตยามค่ำคืน: ขโมยหัวใจคนชั่ว
พอตกกลางคืน คุณกลายเป็น “Phantom Thieves” ที่บุกเข้าไปใน “Palace” (โลกใต้จิตสำนึกของคนชั่ว) เพื่อเปลี่ยนแปลงหัวใจพวกเขา
- ระบบการต่อสู้แบบ Turn-Based: สนุก รวดเร็ว และลึก คุณต้องหาจุดอ่อนของศัตรู (เหมือนเกม Pokémon แต่เท่ขึ้น 10 เท่า)
- Baton Pass: เมื่อโจมตีโดนจุดอ่อน คุณสามารถส่งต่อเทิร์นให้เพื่อนทำคอมโบต่อได้ มันทำให้การวางแผนเป็นเรื่องสนุกมาก
- All-Out Attack: เมื่อศัตรูล้มทั้งหมด คุณจะได้ปิดฉากด้วยท่าจบสุดเท่ พร้อมภาพสไตล์การ์ตูนโก้ๆ
เรื่องราว: ต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม
แม้จะมีองค์ประกอบแฟนตาซี แต่แกนเรื่องของ Persona 5 Royal กลับ “ใกล้ตัว” อย่างน่าประหลาด
คุณเล่นเป็นนักเรียนม.ปลายที่ถูกส่งตัวมาโตเกียวหลังจากถูกใส่ร้าย แล้วได้พบกับกลุ่มเพื่อนที่มีอดีตบอบช้ำคล้ายๆ กัน พวกเขาตัดสินใจรวมตัวกันเป็น “Phantom Thieves of Hearts” เพื่อต่อสู้กับผู้ใหญ่ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด
เนื้อเรื่องพูดถึงประเด็น:
- การละเมิดอำนาจ
- การกดขี่ผู้อ่อนแอ
- ความอยุติธรรมของระบบ
มันทำให้รู้สึกว่าเรากำลังต่อสู้เพื่ออะไรบางอย่างที่มีความหมาย ไม่ใช่แค่ “ฆ่ามอนสเตอร์เก็บเลเวล”
เพลง: ซาวด์แทร็กที่คุณจะฟังซ้ำแม้ไม่ได้เปิดเกม
ถ้า Persona 5 Royal เป็นคน เพลงคืออาวุธลับที่ทรงพลังที่สุด
แนวเพลง Acid Jazz และ Jazz Fusion สไตล์ญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์มากๆ ไม่ว่าจะเป็น:
- “Last Surprise” – เพลงประจำฉากต่อสู้ที่ทำให้คุณอยากเต้นไปด้วยทุกครั้ง
- “Beneath the Mask” – เพลงเวลาเดินทางในโตเกียวยามค่ำคืน บรรยากาศเหงาๆ แต่อบอุ่น
- “Life Will Change” – เพลงที่ปลุกพลังให้คุณรู้สึกพร้อมเปลี่ยนโลก
เพลงทุกเพลงไม่ใช่แค่ BGM แต่มันคือ “วิญญาณของเกม” ที่ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังอยู่ในโลกแห่งจอมโจรจริงๆ
ความทรงจำสุดปัง: “เกมสั้นจัง!?” (สปอยล์นิดหน่อย ไม่มาก)
นี่คือประสบการณ์ที่ผมจำได้แม่นที่สุดในรอบแรก… ผมโดน Bad Ending!
เกมดำเนินไปถึงจุดหนึ่ง แล้วก็จบลงแบบดื้อๆ ความรู้สึกแรกคือ “หา!? แค่นี้เหรอ!? เกมมันสั้นจัง!” 😂
แต่พอรู้ว่าผมเลือกผิด ผมถึงได้ตระหนักว่า… ทุกการตัดสินใจในเกมนี้มีความหมาย และนี่ไม่ใช่เกมที่เอาง่ายๆ มันทำให้อยากกลับไปเริ่มใหม่ทันที!
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของรอบที่สอง… และรอบที่สาม (ที่กำลังจะมาแน่นอน 😄)
สิ่งที่เกมทำได้ดีมาก
✅ สไตล์และ Presentation ระดับเทพ – ทุกอย่างดูเท่ห์สุดๆ
✅ เนื้อเรื่องที่จับใจ – มีทั้งอารมณ์ขัน ดราม่า และข้อคิดลึกซึ้ง
✅ เกมเพลย์ที่สนุกและลึก – ไม่น่าเบื่อแม้เล่นยาว
✅ ตัวละครที่มีชีวิต – แต่ละคนมีเสน่ห์และพัฒนาการที่น่าติดตาม
✅ เพลงสุดเจ๋ง – อยากฟังซ้ำทุกวัน
สิ่งที่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน (แต่ไม่ใช่ข้อเสีย!)
🔸 เกมยาวมาก – 100+ ชั่วโมงอาจจะมากเกินไปสำหรับคนที่มีเวลาน้อย
🔸 มีฉากคัทซีนและบทสนทนายาว – ถ้าไม่ชอบอ่าน/ฟังเนื้อเรื่องอาจจะรู้สึกช้า
🔸 ระบบจัดการเวลาอาจกดดัน – ต้องวางแผนว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน
แต่สำหรับผมแล้ว สิ่งเหล่านี้คือ “จุดเด่น” ที่ทำให้เกมมีเสน่ห์ ไม่ใช่ข้อเสีย
สรุป: นี่คือเกมที่คุณต้องเล่น
ถ้าคุณกำลังมองหาเกมที่:
- มีสไตล์และบุคลิกโดดเด่น
- เล่าเรื่องได้สนุกและมีความหมาย
- มีเกมเพลย์ลึกและติดหนึบ
- มีเพลงเพราะจนอยากฟังซ้ำ
- ทำให้คุณอยากใช้เวลากับมันนานๆ
Persona 5 Royal คือคำตอบ
ผมเล่นจบไป 2 รอบแล้ว และกำลังวางแผนรอบที่ 3 อยู่ เพราะมันคือเกมที่ยิ่งเล่น ยิ่งอยากกลับไปเจอเพื่อนๆ ในทีม Phantom Thieves อีกครั้ง
ถ้าคุณยังไม่เคยเล่น… ถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยให้หัวใจถูกขโมยไป ❤️🎭
คะแนน: 10/10 – ผมไม่ค่อยให้คะแนนเต็มหรอกนะ แต่เกมนี้สมควรได้รับมัน
“Take Your Heart!” 🎵