สวัสดีเพื่อนๆ ชาวเน็ตฯ และคอหนังทุกคน! ปิงกลับมาแล้วจ้า! วันนี้มีหนังดีๆ บน Netflix ที่อยากจะมาป้ายยา เอ๊ย! มารีวิวให้อ่านกันเพลินๆ กับเรื่อง ‘The Two Popes’ หรือชื่อไทยประมาณว่า ‘สองสันตะปาปา’ นั่นแหละ! แค่ชื่อเรื่องกับพล็อตก็คือว้าวซ่า น่าสนใจแล้วใช่ปะ? หนังที่จับเอาสมเด็จพระสันตะปาปา หรือ ‘โป๊ป’ สององค์ สองยุค สองสไตล์ความคิด มาเจอกัน! มันจะเกิดอะไรขึ้น!?
ความปังมันอยู่ตรงที่ นักแสดงที่มารับบทสองโป๊ปนี่คือระดับตำนาน! เราจะได้เห็น เซอร์ แอนโทนี่ ฮ็อปกินส์ (ปู่ฮันนิบาลในตำนาน!) มาสวมบทเป็น โป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16 ผู้เคร่งครัดในแบบแผน (ซึ่งพระองค์เพิ่งสิ้นพระชนม์ไปเมื่อต้นปี 2023 นี่เอง การดูหนังเรื่องนี้ตอนนี้อาจจะทำให้หลายคนยิ่งรู้สึกอินมากขึ้นไปอีกนะ) มาปะทะคารม (หรือเปล่า?) กับ โจนาธาน ไพรซ์ (High Sparrow จาก Game of Thrones ไง!) ในบท พระคาร์ดินัล ฮอร์เฮ เบร์โกกลิโอ หรือก็คือ (ว่าที่) โป๊ปฟรานซิส ซึ่งพระองค์เพิ่งสิ้นพระชนม์ ผู้เข้าถึงง่าย สบายๆ นั่นเอง! แค่นักแสดงสองคนนี้ก็การันตีคุณภาพการแสดงระดับออสการ์แล้ว! แค่นี้ก็น่าดูแล้วปะล่ะ?
เรื่องจริง? หรือ แค่ ‘แต่งเติม’? พล็อตเรื่องสุดจินตนาการ 🤔
ก่อนอื่นต้องบอกตัวใหญ่ๆ เลยว่า หนังเรื่องนี้ ‘ไม่ใช่เรื่องจริง’ นะเพื่อนๆ! แต่มันคือบทภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์มาจากจินตนาการของผู้เขียนบท Anthony McCarten (คนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา เขียนบทหนังดังๆ อย่าง The Darkest Hour, Bohemian Rhapsody มาแล้ว!) โดยแกจินตนาการว่า “จะเป็นยังไงนะ… ถ้าโป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16 กับ พระคาร์ดินัลเบร์โกกลิโอ (ที่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นโป๊ปฟรานซิส) ได้มาพบปะ พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ในช่วงเวลาก่อนที่โป๊ปเบเนดิกต์จะตัดสินใจสละตำแหน่งในปี 2013?”
หนังกำกับโดย Fernando Meirelles ผู้กำกับชาวบราซิลฝีมือดี ที่เคยฝากผลงานเทพๆ อย่าง City of God กับ The Constant Gardener มาแล้ว รับประกันงานภาพและมุมมองที่ไม่ธรรมดาแน่นอน
นักแสดงระดับเทพ! & ภาพสวยระดับโลก! ✨🎬
สิ่งที่ต้องชมแบบตะโกนดังๆ เลยคือ การแสดงของปู่ฮ็อปกินส์กับปู่ไพรซ์! คือแบบ… โอ้โห! ปู่สองคนนี้เล่นดีโคตรรรร! เก็บทุกเม็ด ทุกรายละเอียด ทั้งท่าทาง น้ำเสียง แววตา จนเราเชื่อสนิทใจเลยว่านี่คือโป๊ปเบเนดิกต์กับ (ว่าที่) โป๊ปฟรานซิสตัวจริงมาเอง! การแคสติ้งนี่คือเป๊ะปังอลังการดาวล้านดวงมากๆ! 🤩
ส่วนงานภาพก็ไม่น้อยหน้า สวยงามจับใจมาก! ตั้งแต่ฉากในบ้านเกิดของโป๊ปฟรานซิสที่อาร์เจนตินา ไปจนถึงฉากสุดอลังการในนครวาติกัน หรือที่ประทับฤดูร้อน Castel Gandolfo คือสวยทุกมุมจริงๆ
พีคกว่านั้นคือ: ทีมงานเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำใน โบสถ์ซิสทีน (Sistine Chapel) ของจริงนะเพื่อนๆ! แต่ทำไง? เขาก็เลยสร้างโบสถ์ซิสทีนจำลองขึ้นมาใหม่ในสตูดิโอถ่ายทำซะเลย! แบบขนาดเท่าของจริงเป๊ะๆ! โอ้โห! ทุ่มทุนสร้างเวอร์วังมาก! ดูในหนังคือเนียนกริ๊บ แยกไม่ออกเลย!
สองขั้วความคิด: จากเย็นชา สู่ความเข้าใจ? 🙏🤝
หนังเล่าถึงช่วงเวลาที่พระคาร์ดินัลเบร์โกกลิโอ ถูกเรียกตัวจากอาร์เจนตินามาที่โรม เพื่อเข้าพบโป๊ปเบเนดิกต์ เพราะแกอยากจะขอลาออกจากตำแหน่งอาร์คบิชอปฯ ตอนแรกที่เจอกันนี่คือ บรรยากาศมาคุสุดๆ! เหมือนน้ำกับน้ำมัน สองขั้วความคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โป๊ปเบเนดิกต์ผู้ยึดมั่นในประเพณี กับพระคาร์ดินัลเบร์โกกลิโอผู้หัวสมัยใหม่ ขนาดคืนแรกที่พระคาร์ดินัลมาถึง เบเนดิกต์ยังเสวยมื้อค่ำคนเดียว ไม่ชวนแขกกินด้วยเลยอะคิดดู! (มีแม่ชีใจดีแอบกระซิบบอกพระคาร์ดินัลว่า ปกติโป๊ปชอบเสวยคนเดียวอยู่แล้ว… เหงาเนอะ 🥺)
หนังพยายามจะฉายภาพความแตกต่างของทั้งสองคนมากๆ (ซึ่งบางทีก็แอบรู้สึกว่าจงใจไปนิดๆ เหมือนกันนะ 😅) แต่พอเวลาผ่านไป ทั้งคู่ก็ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ได้พูดคุยถกเถียง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องความเชื่อ มุมมองต่อโลก ต่อศาสนจักร และบทบาทของศาสนจักรในโลกยุคใหม่
ด้วยความที่มันเป็นบทสนทนาที่ ‘แต่งขึ้น’ บางซีนเราก็เลยรู้สึกเหมือนเป็นแมลงวันที่ได้แอบฟังสองผู้นำทางจิตวิญญาณคุยกันแบบส่วนตั๊วส่วนตัวเลย อินมาก! แต่บางซีนก็แอบเอ๊ะ? นิดๆ ว่าคนเขียนบทแกต้องการจะสื่ออะไร หรือใส่มาทำไมนะ? ก็มีบ้างตามประสาหนังที่เล่นกับจินตนาการ
จุดเด่น จุดด้อย ในมุมมองปิง 🤔
โดยรวมปิงสนุกกับหนังเรื่องนี้นะ ชอบที่ได้เห็นเรื่องราวของคนสองคนที่มีพื้นเพต่างกันสุดขั้ว แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกันคือการรับใช้ศาสนจักร หนังทำให้เราได้เห็นมุมมองที่แตกต่างกันของทั้งสองท่าน
จุดแข็งมากๆ คือ หนังพาเราไปรู้จักชีวิตและมุมมองของ โป๊ปฟรานซิส (ผ่านฉากย้อนอดีต) ได้ลึกซึ้งพอสมควรเลย แต่จุดที่แอบเสียดายนิดๆ คือ หนังอาจจะไม่ได้เจาะลึกปูมหลังหรือความคิดของ โป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16 มากเท่าฝั่งฟรานซิส ถ้าจะให้ดี ปิงว่าถ้าทำเป็นมินิซีรีส์ซัก 2-3 ตอน น่าจะลงลึกตัวละครทั้งสองฝั่งได้สะใจกว่านี้อีกเยอะเลย!
สาระดีๆ & สรุปว่า… ควรดูไหม? 👍👎
หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่บทสนทนาเฉียบๆ หรือการแสดงเทพๆ นะเพื่อนๆ แต่มันยังสอดแทรกประเด็นที่ลึกซึ้งมากๆ เกี่ยวกับ การให้อภัย (Forgiveness) และ ความเมตตา (Mercy) ทั้งการให้อภัยผู้อื่น และที่สำคัญคือการให้อภัยตัวเอง การที่หนังเลือกเล่าประเด็นหนักๆ เหล่านี้ผ่านบทสนทนา (ที่แต่งขึ้น) ของสองโป๊ป มันช่วยทำให้คนดูอย่างเราเข้าใจและเข้าถึงประเด็นเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นมากๆ เลย
แล้วสรุปว่าควรดูไหม? ปิงว่าควรดูนะ! โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่เป็นคาทอลิก หรือสนใจเรื่องศาสนา ประวัติศาสตร์ หรือแค่ชอบดูหนังดีๆ นักแสดงเก่งๆ เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก!
แต่! ย้ำอีกครั้งนะเพื่อนๆ! ว่าบทสนทนาและเหตุการณ์ส่วนใหญ่ในหนังเป็น เรื่องแต่งที่เกิดจากจินตนาการ นะจ๊ะ! อย่าเผลออินจนคิดว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดล่ะ! 😉 ดูเอาสนุก เสพงานศิลป์ ดูการแสดงขั้นเทพ และเก็บข้อคิดดีๆ กลับไปก็พอแล้ว
สรุปคือ The Two Popes เป็นหนังดีอีกเรื่องบน Netflix ที่มีความกล้าหาญในการหยิบยกประเด็นอ่อนไหวมาเล่าผ่านจินตนาการได้อย่างน่าสนใจ ทั้งสนุก ภาพสวย นักแสดงเทพ แถมยังทิ้งคำถามและข้อคิดดีๆ ให้เรากลับไปขบคิดต่ออีกเพียบ ใครยังไม่ได้ดู หรือกำลังหาหนังดีๆ สักเรื่องดูอยู่ ปิงแนะนำเลยครับ! ไปหาดูกันได้เลยจ้า! วันนี้ปิงลาไปก่อน บายยย! 👋
